การอนุโมทนากับผู้ที่ทำบุญ
โดย เจริญในธรรม  23 เม.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 8402

ทุกครั้งที่คนอื่นทำบุญ เรารู้เราก็จะอนุโมทนายินดีในการทำบุญกับคนเหล่านั้น พูดง่ายๆ จิตเราเป็นกุศลยินดีในบุญที่เขาทำ

ถามว่า หากเราไม่รู้บุญที่เขาทำ เป็นบุญที่เป็นบาป ถือว่าเราได้อนุโมทนาการทำบาปของเขาด้วยหรือเปล่า และเราก็จะได้บาปหรืออกุศลตามเขาดังที่เราอนุโมทนาหรือไม่

อนึ่งบุญที่เขาทำที่เป็นบาปเช่นเราเห็นเขาไปทำบุญที่วัด แต่เขาก็ถวายเงินแก่พระเราไม่รู้หรอกว่าเขาถวายเงิน และเขาก็กลับมาที่บ้านบอกให้เรารู้ว่าไปทำบุญมา เราก็อนุโมทนาบุญกับเขาด้วย



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 23 เม.ย. 2551

ในขณะที่เขาคิดสละเงิน จิตของเขาก็มีบุญ คือกุศลจิตอยู่บ้าง แต่เป็นกุศลที่ไม่ค่อยจะฉลาดสักเท่าไหร่ เพราะทำให้พระอาบัติ ผมเข้าใจว่าแม้บุญเพียงเล็กน้อย เราก็อนุโมทนาได้ แต่ถ้าแนะนำเขาทำให้ถูกตามพระวินัยจะเป็นการดี


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 23 เม.ย. 2551

เวลาเห็นใครทำกุศลเราก็อนุโมทนาชื่นชมในความดีที่เขาทำ เขาทำบุญกับพระภิกษุด้วยเงิน เขาทำไปด้วยความไม่รู้ เราอนุโมทนาในความดีที่เขาทำไม่บาปค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ป้าจาย  วันที่ 23 เม.ย. 2551

ต้องแยกการทำบุญ หรือขณะจิตที่ทำกุศล ออกจากอานิสงส์ของบุญ หรือ ขณะจิตที่เป็นวิบาก ออกจากกันค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย suwit02  วันที่ 23 เม.ย. 2551
ขออนุโมทนาทุกคำตอบครับ

ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 23 เม.ย. 2551

ขณะที่อนุโมทนาในกุศลของบุคคลอื่นย่อมเป็นกุศลจิต อย่างแน่นอน เพราะขณะนั้นเป็นจิตใจที่อ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง เมื่อได้ศึกษาธรรม มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว สิ่งใดที่ไม่ตรงตามพระธรรมวินัยเราก็สามารถที่จะให้คำแนะนำกับบุคคลอื่นได้ เพื่อเขาจะได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องขึ้นจะได้ไม่กระทำผิดอีกต่อไป ครับ


ความคิดเห็น 6    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 23 เม.ย. 2551

อนุโมทนาในสภาพจิตที่เป็นกุศล อนุโมทนา คือ ยินดี เห็นด้วยกับสิ่งที่ทำนั้น ยินดีเห็นด้วยกับสิ่งที่ถูกหรือเป็นกุศลเป็นอนุโมทนา ยินดีด้วยกับสิ่งที่ไม่ถูกเป็นอกุศลไม่ใช่อนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย บักกะปอม  วันที่ 25 เม.ย. 2551
เมื่อรู้ว่าดีแล้วอนุโมทนา ก็เป็นกุศลจิต (บุญ) เกิดแล้ว ดับแล้วต่อมารู้ทีหลังว่าไม่ถูกต้อง หากจิตขณะนั้นเป็นอกุศล (บาป) บังคับบัญชาไม่ได้ที่สำคัญ การศึกษาพระธรรม เพื่อทราบว่า ขณะจิตเป็นกุศล (บุญ) และขณะที่จิตเป็นอกุศล (บาป) เป็นคนละขณะกันเกิดดับสลับกันเร็วมาก แต่ในชีวตประจำวัน อกุศลมีมากกว่าเป็นธรรมดาและเป็นสิ่งที่เกิดตามเหตุปัจจัย บังคับไม่ได้ แต่รู้ได้ด้วยปัญญาค่อยๆ ศึกษาไป จะค่อยๆ รู้มากขึ้น ทุกคน เริ่มจากความไม่รู้ทั้งนั้น