ทุกครั้งที่คนอื่นทำบุญ เรารู้เราก็จะอนุโมทนายินดีในการทำบุญกับคนเหล่านั้น พูดง่ายๆ จิตเราเป็นกุศลยินดีในบุญที่เขาทำ
ถามว่า หากเราไม่รู้บุญที่เขาทำ เป็นบุญที่เป็นบาป ถือว่าเราได้อนุโมทนาการทำบาปของเขาด้วยหรือเปล่า และเราก็จะได้บาปหรืออกุศลตามเขาดังที่เราอนุโมทนาหรือไม่
อนึ่งบุญที่เขาทำที่เป็นบาปเช่นเราเห็นเขาไปทำบุญที่วัด แต่เขาก็ถวายเงินแก่พระเราไม่รู้หรอกว่าเขาถวายเงิน และเขาก็กลับมาที่บ้านบอกให้เรารู้ว่าไปทำบุญมา เราก็อนุโมทนาบุญกับเขาด้วย
ในขณะที่เขาคิดสละเงิน จิตของเขาก็มีบุญ คือกุศลจิตอยู่บ้าง แต่เป็นกุศลที่ไม่ค่อยจะฉลาดสักเท่าไหร่ เพราะทำให้พระอาบัติ ผมเข้าใจว่าแม้บุญเพียงเล็กน้อย เราก็อนุโมทนาได้ แต่ถ้าแนะนำเขาทำให้ถูกตามพระวินัยจะเป็นการดี
เวลาเห็นใครทำกุศลเราก็อนุโมทนาชื่นชมในความดีที่เขาทำ เขาทำบุญกับพระภิกษุด้วยเงิน เขาทำไปด้วยความไม่รู้ เราอนุโมทนาในความดีที่เขาทำไม่บาปค่ะ
ต้องแยกการทำบุญ หรือขณะจิตที่ทำกุศล ออกจากอานิสงส์ของบุญ หรือ ขณะจิตที่เป็นวิบาก ออกจากกันค่ะ
ขณะที่อนุโมทนาในกุศลของบุคคลอื่นย่อมเป็นกุศลจิต อย่างแน่นอน เพราะขณะนั้นเป็นจิตใจที่อ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง เมื่อได้ศึกษาธรรม มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว สิ่งใดที่ไม่ตรงตามพระธรรมวินัยเราก็สามารถที่จะให้คำแนะนำกับบุคคลอื่นได้ เพื่อเขาจะได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องขึ้นจะได้ไม่กระทำผิดอีกต่อไป ครับ
อนุโมทนาในสภาพจิตที่เป็นกุศล อนุโมทนา คือ ยินดี เห็นด้วยกับสิ่งที่ทำนั้น ยินดีเห็นด้วยกับสิ่งที่ถูกหรือเป็นกุศลเป็นอนุโมทนา ยินดีด้วยกับสิ่งที่ไม่ถูกเป็นอกุศลไม่ใช่อนุโมทนาครับ