คนทั่วไปคิดว่าแค่เป็นเราพูดดี คิดดี ทำดีก็ดีแล้ว ... จะดีสุดๆ จนไม่มีเราที่พูดดี คิดดี ทำดีเลยหรือ จะสุดๆ เกินไปไหม??

แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร?? ตรัสว่าธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา เพราะฉะนั้น ฟังคำของพระองค์หรือเปล่า?? เป็นสิ่งที่สมควรพิจารณาอย่างยิ่ง คิดดี พูดดี ทำดีก็เป็นเราที่ดีอยู่แล้ว ... ก็มีเราเป็นที่พึ่ง!!! ... ใช่ไหมคะ คิดอย่างนี้จะมีใครเป็นที่พึ่งนอกจากตัวเขาเอง เพราะฉะนั้นเขาก็มีตัวเองเป็นที่พึ่ง ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง!!! เพราะฉะนั้น ใครจะพึ่งตัวเองก็พึ่งไป ใครจะพึ่งพระสัมมาสัมพระเจ้าก็ต้องเคารพสูงสุดในคุณซึ่งไม่มีผู้ใดเปรียบได้ในสังสารวัฏ

มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ต้องฟังว่าพระองค์ตรัสว่าอย่างไร ไม่ใช่เราพูดว่าอย่างไร!!! พระองค์ตรัสสิ่งที่ทรงตรัสรู้ พระองค์ทรงตรัสรู้อะไรก็ทรงแสดงความจริงอย่างนั้น ถ้าเราไม่ฟัง ไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าพระองค์ตรัสไว้ว่าอย่างไร!!!

สนทนาเท่าไหร่ๆ ก็ยากที่จะเข้าใจในความไม่ใช่เรา ... เป็นอนัตตา การอบรมเจริญปัญญาก็เป็นสิ่งที่ละเอียด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ... ลึกซึ้งไหม?? มาก ... ต้องไม่ลืม เพราะฉะนั้น ทุกคำต้องไตร่ตรอง ละเอียดอย่างยิ่งเกินกว่าที่จะคิดได้ด้วยตัวเอง

เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจคำของพระองค์ตามลำดับ ต้องไม่ลืมธรรมะคือสิ่งที่มีจริงและกำลังมี ... เตือนแล้วใช่มั้ย ... ลึกซึ้งแค่ไหน เพราะฉะนั้น เมื่อมีความเข้าใจถูกต้องตามลำดับ แค่ความเข้าใจปริยัติไม่สามารถละการยึดมั่นในความเป็นเราและความไม่รู้ ยึดถือตลอดมาในทุกสิ่งทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ... เป็นเรา ทั้งโลกเป็นอย่างนี้ใช่ไหม??

ต้องตรงทุกอย่าง ความจริงทั้งหมดเป็นความจริงไม่ว่าที่ไหน เพราะฉะนั้น พูดยังไงก็เป็นเรา ในขั้นปริยัติเริ่มมีความเข้าใจถูกต้องแต่ยังเป็นเราเข้าใจ ... เริ่มรู้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่ใช่โต๊ะ เก้าอี้ แต่มีลักษณะจริงๆ เมื่อกระทบตา เข้าใจก็ยังเป็นถ้วยแก้ว เป็นคน!! ทุกวันตั้งแต่ตื่นเป็นอย่างนี้ในสังสารวัฏ ... ต้องตรง!!! สำคัญที่สุดคือความตรงตามความเป็นจริง

พระองค์ทรงแสดงหนทางทั้งหมดที่ทรงบำเพ็ญ จนถึงการตรัสรู้ กี่ชาติ?? นานเท่าไหร่?? เพื่อที่จะเอาสิ่งที่เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดแต่ละหนึ่งที่กำลังปรากฏทั้งโลกออกไปจากความเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

เพราะฉะนั้น หนทางต้องมานั่งท่องไหม ไม่ใช่ชื่อ แต่เดี๋ยวนี้ที่เข้าใจ เป็นหนทางเดียวที่จะรู้ความจริง ที่จะค่อยๆ แตะให้ตรงสิ่งที่ปรากฏ เพื่อละความเห็นผิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดแต่ละหนึ่ง

เวลานี้ยังไม่ได้ตรงเลย ยังไม่ได้แตะเพราะไม่มีความเข้าใจในแต่ละคำที่พระองค์ทรงแสดงเมื่อได้ทรงตรัสรู้แล้วว่า "ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา"

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำใน 45 พรรษา ละเอียดอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีการฟังเลย เมื่อไหร่จะเริ่มพิจารณา ไม่แม้แต่ตั้งต้นจะเริ่มยังไม่มีแล้วจะหวังอะไร!!! ถ้าไม่เคยได้ฟังเลย ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าได้ยินได้ฟังแล้ว แต่ไม่เข้าใจ จะบังคับใครให้เข้าใจได้ จนกว่าจะมีปัจจัย ชีวิตของแต่ละคนก็แสดงความเป็นไปตามปัจจัยอยู่แล้วว่าเป็นไปอย่างไร มากด้วยอกุศลประเภทไหนและกุศลประเภทไหนที่เกิดได้บ้าง แต่ก็ยังไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อดำรงรักษาคำสอนที่ถูกต้อง ไม่ให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ... ศึกษา เข้าใจและเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยไม่จำกัดไม่มีประมาณ แล้วแต่ใครพร้อมที่จะรับฟัง ก็พร้อมที่จะสนทนากันให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกันดำรงรักษาพระพุทธศาสนา ไม่ใช่แต่เฉพาะที่ประเทศไทย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วทุกคำ ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์ด้วยความเคารพ ไม่มีทางรู้จักพระองค์เลย

เสียชาติเกิด มีโอกาสศึกษา แต่ไม่ได้ศึกษา แล้วก็จากโลกนี้ไป

เชิญชม

สนทนาปัญหาธรรม

โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และคณะอาจารย์ มศพ.

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2567
เวลา 10.00 - 11.30 น.

Facebook​ Page : วิทยุออนไลน์​บ้านธัมมะ www.facebook.com/share/v/7gAPCWUy5iNLT6tP/?mibextid=qi2Omg

Facebook Group : ชมรมบ้านธัมมะ www.facebook.com/share/v/9VYWsn6wjE45gcTf/?mibextid=qi2Omg

Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา www.youtube.com/live/7-Gc7T55Jjk?si=ydiyj7UpjfscQZjJ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ