ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สนทนาธรรม ณ วัดดงเทวี อ.เชีนงดาว จ.เชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๔๔ โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
แม้ว่า สติปัฏฐานเกิด ก็ยังต้องรู้ความจริงว่า ถ้ามีโลภะขณะไหนไม่ใช่หนทาง ต้องรู้ทันทีแล้วก็กลับมาระลึกลักษณะของสภาพธรรมแต่ ไม่ใช่ด้วย ความเป็นตัวตน. เพราะฉะนั้น จะเห็นความเป็นตัวตนยากมาก และปัญญาก็ต้องฟังอย่างละเอียด แล้วรู้ว่าตัวตนตรงไหนและก็ดำเนิน หนทางนั้นไป ด้วยความเบาสบายที่รู้ว่าเป็นระยะทางที่ไกล แต่ต้องไปด้วยความเห็นถูก เพราะเมื่อมีความเห็นถูกก็ต้องนำไปสู่ความเห็นถูกยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีความเห็นผิดก็ต้องนำไปสู่ความเข้าใจผิด ถ้ามีโลภะ โลภะจะนำไปสู่ความต้องการทันที ไปไกลมากจนบางคนเข้าใจว่า ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมแล้ว เพราะฉะนั้น มรรค ๘ ที่เป็นหนทางผิดก็มี ทั้งรู้ผิดและพ้นผิดด้วย เพราะเข้าใจว่าพ้นแล้ว รู้แล้ว
ขณะที่เห็น ก็รู้ว่าชั่วขณะที่ลืมตาแล้วสิ่งนี้ปรากฏ ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของความคิดมากมายมหาศาลต่อกันไปเลยทางมโนทวาร เพราะฉะนั้น การฟัง เรื่องสติปัฏฐานก็เป็นเรื่องที่ฟังแล้วก็เข้าใจความละเอียด แล้วก็รู้ว่าเป็น "หนทาง" ที่ต้องอบรมที่ต้องรู้จริงๆ เข้าใจถูกจริงๆ
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์
โลภะและความเป็นตัวตน
ยากที่จะมองเห็น
โลภะอยู่ด้วยทุกเวลา
ตัวตนเพราะยึดว่าเป็นเรา
เพราะยังไม่รู้ตามความเป็นจริง
ขออนุโมทนาคุณปริศนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
สาธุ
ชาติไหนที่เราได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องเป็นเหตุให้เกิดปัญญา ชาตินั้นเราพบหนทาง แต่ชาติไหนที่เราไม่มีโอกาสได้ยินได้ฟังพระธรรมเลยชาตินั้นเราก็ไม่พบหนทาง
...ขออนุโมทนาครับ...
แม้ว่า สติปัฏฐานเกิด ก็ยัง ต้องรู้ความจริง ว่าถ้ามีโลภะขณะไหน ไม่ใช่หนทาง ต้องรู้ทันที แล้วก็กลับมาระลึกลักษณะของสภาพธรรมแต่ ไม่ใช่ด้วยความเป็นตัวตน
ขออนุโมทนาคุณปริศนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ