ผมเคยได้ยินพระท่านได้สอนว่า เราประกอบอาชีพที่ผิดศีล 5 ในชีวิตประจำวัน เช่น พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องโกหกบ่อยๆ หรือ ค้าขายสัตว์ที่เป็นอาหาร (ต้องฆ่าสัตว์ในขณะนั้นด้วย) ก็ให้ประกอบอาชีพนั้นไปตามปกติ แต่เวลาก่อนนอนก็ให้สมาทานศีล 5 ก่อนนอน หรือให้ทำบุญอุทิศแก่สัตว์ที่เราได้ฆ่าไป ก็พอจะช่วยบรรเทาบาปกรรมได้บ้าง ผมขอเรียนถามว่าเป็นการสอนที่ถูกต้องหรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-สมาทาน หมายถึง การถือเอาด้วยดี, การถือเอาเป็นข้อปฏิบัติด้วยดี โดยไม่จำเป็นต้องมีการกล่าวเป็นข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องของเจตนาในการที่จะงดเว้นจากสิ่งที่ควรงดเว้น ซึ่งสิ่งที่ควรงดเว้นเป็นนิตย์ ในชีวิตประจำวันมี ๕ ประการ คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดเท็จ และเว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่พ้นไปจากความประพฤติเป็นไปทางกาย วาจา ของแต่ละบุคคลเลย ครับ
การสมาทาน รักษาศีล เพื่อล้างบาป สะเดาะเคราะห์ เป็นความเข้าใจผิด เพราะกุศลแยกจากอกุุศล ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ใช่อยู่ที่คำสมาทาน หรือพิธีกรรมซึ่งทำเป็นกิจวัตร แต่อยู่ที่สภาพจิตเป็นสำคัญว่าได้เห็นโทษของการล่วงละเมิดศีลข้อต่างๆ มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น หรือไม่ ถ้าไม่มีความจริงใจในการที่จะถือเอาเป็นข้อปฏิบัติด้วยดีที่จะงดเว้นในสิ่งที่เป็นโทษแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์แต่ประการใด ซ้ำยังเป็นโทษด้วย เพราะไม่ได้มีความตั้งใจจริงๆ เพียงแต่พูดๆ ไปเท่านั้น และอกุศลกรรมที่ได้กระทำไปแล้ว ไม่สามารถลบล้างได้ ถ้ายังไม่เห็นโทษ ก็ยิ่งสะสมพอกพูนยิ่งขึ้น ให้โทษกับตนเองโดยส่วนเดียว เป็นผู้ไม่รักตน เพราะทำความเสียหายให้แก่ตน ด้วยการประกอบอกุศลกรรม ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขณะที่ฆ่าสัตว์ หรือพูดโกหก ขณะนั้นศีลขาดล่วงศีลแล้ว อกุศลเกิดห่างไกลจากกุศล ท่านเปรียบเหมือนฟ้ากับแผ่นดิน และ การรักษาศีลสำคัญที่เจตนาจะวิรัติงดเว้นทุจริต ไม่ได้อยู่ที่คำสมาทานค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ