[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 300
๑๒. โขมทุสสสูตร
ว่าด้วยธรรมของสภา
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 300
๑๒. โขมทุสสสูตร
ว่าด้วยธรรมของสภา
[๗๒๔] ข้าพเจ้าได้สดับแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมชื่อว่า โขมทุสสะของเจ้าศากยะ ในแคว้นสักกะ.
ครั้งในเวลาเช้า พระผู้มีพระเจ้าทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังโขมทุสสนิคม.
สมัยนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ประชุมกันอยู่ในสภาด้วยกรณียกิจบางอย่าง และฝนกำลังตกอยู่ประปราย.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปยังสภานั้น.
พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกล ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้ว่า คนพวกไหนชื่อว่าสมณะโล้น และคนพวกไหนรู้จักธรรมของสภา.
[๗๒๕] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะพราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ด้วยพระคาถาว่า
ในที่ใดไม่มีคนสงบ ที่นั้นไม่ชื่อว่าสภา คนเหล่าใดไม่กล่าวธรรม คนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าคนสงบ คนละราคะโทสะและโมหะแล้วกล่าวธรรมอยู่ คนเหล่านั้นชื่อว่าคนสงบ.
[๗๒๖] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านพระโคดม
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 301
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมีจักษุจักเห็นรูป ฉะนั้น พวกข้าพระองค์เหล่านี้ขอถึงท่านพระโคดมผู้เจริญกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมทรงจำพวกข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้.
จบโขมทุสสสูตรที่ ๑๒
จบอุปาสกวรรคที่ ๒
อรรถกถาโขมทุสสสูตร
ในโขมทุสสสูตรที่ ๑๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า โขมทุสฺสนฺนาม ได้แก่ นิคมที่ได้ชื่ออย่างนี้ เพราะมีผ้าไหมมาก. บทว่า สภายํ ได้แก่ ในศาลา. บทว่า ผุสายติ ความว่า หลั่งหยาดน้ำคือตก ได้ยินว่า พระศาสดา มีพระประสงค์จะเข้าสู่สภานั้นทรงดำริว่าเมื่อเราเข้าไปด้วยอาการอย่างนี้ จะไม่มีความสะดวก เพราะเหตุนั้น เราอาศัยเหตุอย่างหนึ่งแล้วจักเข้าไป ดังนี้แล้ว ทรงบันดาลให้เกิดฝนตกด้วยการอธิษฐาน. บทว่า สภาธมฺมํ ความว่า ได้ยินว่า การไม่ทำชนผู้นั่งอย่างสบายให้ลุกขึ้นแล้วเข้าไปข้างหนึ่ง และการไม่ทำมหาชนให้เข้าไปตรงๆ ที่เดียวชื่อว่า สภาธรรมของพราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้น. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จตรงไปทีเดียว. เพราะเหตุนั้น พราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้นโกรธ กล่าวเย้ยหยัน
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 302
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ชนเหล่าไหนเล่าเป็นสมณะโล้น และชนเหล่าไหนเล่าจักรู้สภาธรรม. บทว่า สนฺโต ได้แก่ บัณฑิต คือ สัตบุรุษ. บทว่า ปหาย ความว่า ชนที่ละราคะเป็นต้นเหล่านั่น กล่าวธรรมเพื่อกำจัดราคะเป็นต้น ชื่อว่า สัตบุรุษ.
จบอรรถกถาโขมทุสสสูตรที่ ๑๒ อุปาสกวรรคที่ ๒
แห่งพราหมณสังยุตเพียงเท่านี้
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. กสิสูตร ๒. อุทัยสูตร ๓. เทวหิตสูตร ๔. มหาศาลสูตร ๕. มานัตถัทธสูตร ๖. ปัจจนิกสูตร ๗. นวกัมมิกสูตร ๘. กัฏฐหารสูตร ๙. มาตุโปสกสูตร ๑๐. ภิกขกสูตร ๑๑. สังครวสูตร ๑๒. โขมทุสสสูตร พร้อมทั้งอรรถกถา
จบพราหมณสังยุต