หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๘๗]
เอาตัวรอดจากกิเลสด้วยปัญญา
ใครไม่มีกิเลสบ้าง? เพราะฉะนั้น รู้จักความเร่าร้อนกันทุกคน ใช่ไหม? ถ้าขณะใดที่กิเลสไม่เกิด ขณะนั้นไม่เร่าร้อนแน่นอน แต่เวลาใดที่กิเลสเกิดขณะนั้นก็เป็นความเร่าร้อนตามลักษณะของกิเลสนั้นๆ เพราะฉะนั้น ชีวิตประจำวันทั้งหมดก็แสดงให้เห็นว่า ตามความเป็นจริงไม่รู้ว่าความเร่าร้อนนั้นมาจากไหน เพราะเหตุว่าเกิดมาแล้วเร่าร้อน เพราะฉะนั้น ความเร่าร้อนนั้นมาจากไหน? ถ้าไม่มีการเกิด ก็ไม่เร่าร้อน และถ้ายังมีกิเลสอยู่ก็ยังต้องเกิด เพราะฉะนั้น ทุกคนขณะนี้กำลังมีกิเลส แล้วก็เคยเร่าร้อนมาแล้วด้วย จะเร่าร้อนมากน้อยประการใดเรื่องใด ก็ผ่านมาแล้ว ไม่ชอบเลยใช่ไหมความเร่าร้อน? เพราะฉะนั้น เอาตัวรอดดีไหม? คำว่า เอาตัวรอด ฟังดูเหมือนกับเห็นแก่ตัว แต่ความจริงเอาตัวรอดจากความเร่าร้อน เอาตัวรอดจากิเลส เพราะว่าจริงๆ แล้วถ้าเรายังคงแสวงหาทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม เราไม่พ้นจากิเลส ไม่พ้นจากความเร่าร้อน เพราะฉะนั้น ขณะกำลังฟังเดี๋ยวนี้ ต้องรู้ความจริงว่าเป็นการเอาตัวรอดจากกิเลส กิเลสนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งหมดไม่ได้นำมาซึ่งความสุขสบายหรือสิ่งที่มาปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ที่น่าพอใจเลย แล้วก็บังคับบัญชาไม่ได้ด้วย แล้วก็จะเร่าร้อนกันต่อไปอีก ขณะที่กำลังเอาตัวรอดจากกิเลสคือกำลังฟังพระธรรมให้เข้าใจ ขณะนี้ไม่ปรากฏความเร่าร้อนเมื่อมีความเข้าใจ แต่ตราบใดที่ยังคงมีกิเลสอยู่ให้ทราบว่า มีทางเดียว คือ คนอื่นช่วยไม่ได้เลย นอกจากทุกคนต้องเอาตัวรอดจากกิเลสด้วยปัญญา ความเห็นที่ถูกต้อง
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย
ขออนุโมทนาครับ