ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถาขุทกนิกาย คาถาธรรมบท
เรื่องโจรผู้ทำลายปม
ข้อความเบื้องต้นพระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันทรงปรารภพวกโจรผู้ทำลายปมแล้วตรัส พระธรรมเทศนานี้ ว่าบุคคลใด โง่ย่อมสำคัญความที่ตนเป็น "คนโง่" บุคคลนั้น จะเป็น "บัณฑิต" เพราะ "เหตุนั้น" ได้บ้าง ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญตนว่า ตนเป็น "บัณฑิต" บุคคลนั้นแล เราเรียกว่า "คนโง่"
แก้อรรถ
ความว่าบุคคลใด เป็น "คนโง่" คือ ไม่ใช่ "บัณฑิต" ย่อมสำคัญ คือ ย่อมรู้ ความที่ตน เป็น "คนโง่" คือ ความเป็นคนเขลานั้น ด้วยตนเองว่า "เราเป็นคนเขลา" ด้วย "เหตุนั้น" บุคคลนั้น จะเป็น "บัณฑิต" ได้บ้างหรือ จะเป็นเช่นกับ "บัณฑิต" ได้บ้าง
ก็เขารู้อยู่ ว่า "เราเป็นคนโง่" เข้าไปหา เข้าไปนั่งใกล้คนอื่น ซึ่งเป็น "บัณฑิต" อัน "บัณฑิต" นั้น กล่าวสอนอยู่ พร่ำสอนอยู่เพื่อ "ประโยชน์" แก่ความเป็น "บัณฑิต" เรียนเอาโอวาทนั้นแล้ว ย่อมเป็น "บัณฑิต" หรือ เป็น "บัณฑิต" กว่า ได้
ส่วนบุคคลใด เป็นคนโง่ อยู่ สำคัญว่า ตนเป็น "บัณฑิต" ถ่ายเดียว อย่างนี้ว่า คนอื่น ใครเล่า จะเป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก ทรงวินัยมีวาทะกล่าวคุณ เครื่องขจัดกิเลสเช่นกับด้วยเรา มีอยู่ บุคคลนั้น ไม่เข้าไปหา ไม่เข้าไปนั่งใกล้บุคคลอื่น ซึ่งเป็น "บัณฑิต" ย่อมไม่เรียน "ปริยัติ" เลยย่อมไม่บำเพ็ญ "ข้อปฏิบัติ" ย่อมถึงความเป็น "คนโง่" โดยส่วนเดียวแท้
คาถาธรรมบทพาลวรรคที่ ๕
ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง
คนพาลย่อมสำคัญ บาป ประดุจน้ำผึ้งตราบเท่าที่บาป ยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใด บาปให้ผล เมื่อนั้น คนพาล ย่อมประสบความทุกข์
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์
สาธุ
ขอเชิญอ่าน...
พระสูตรเรื่องโจรผู้ทำลายปม
คนพาลย่อมสำคัญตนผิด
บัณฑิตย่อมฝึกฝนตน
...ขออนุโมทนาครับ...
คนที่รู้ตัวว่าตนโง่ อาจเปลี่ยนแปลงเป็นผู้ฉลาดขึ้นได้บ้าง
คนที่ไม่รู้ตัว ย่อมคงความเป็นคนโง่เช่นนั้น และอาจโง่ลงด้วย
อ่านแล้วเตือนใจจริงๆ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง
คนพาล ย่อมสำคัญบาป ประดุจน้ำผึ้งตราบเท่าที่บาป ยังไม่ให้ผลก็เมื่อใด บาปให้ผลเมื่อนั้นคนพาลย่อมประสบความทุกข์
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ