ถามเรื่องพระวินัย ทำไมภิกษุพรากพีชคามและภูตคามไม่ได้
ขอบพระคุณค่ะ
เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยข้อนี้แก่พระสาวกทั้งหลาย ส่วนหนึ่งเพราะทำให้ผู้ที่อาศัยในสถานที่นั้นเดือดร้อน อีกส่วนหนึ่งเพราะความเชื่อของชาวบ้านในยุคนั้น เขาเชื่อกันว่าต้นไม้มีชีวิต การตัดต้นไม้เท่ากับการทำลายชีวิต
ขอเชิญคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่
พืชคามและภูตคาม
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
การไม่พรากภูตคามและพีชคามก็เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ แต่เมื่อได้อ่านเพิ่มเติม ในเรื่องที่เป็นต้นเหตุที่ภิกษุชาวอาฬวีตัดต้นไม้ที่มีเทวดาสิงสถิตอยู่ ทำให้เทวดาโกรธนั้น จึงอยากเรียนถามเพิ่มเติมว่า ต้นไม้ขนาดใด ประเภทใดหรือ อายุเท่าใด จึงมีเทวดาอาศัยอยู่คะ เพราะ ไม่อยากทำให้เทวดาเดือดร้อน (พยายามเจริญกุศลทุกรูปแบบที่พอทำได้ค่ะ เนื่องจากปัญญายังน้อย) และที่คนไทยเชื่อกันว่าต้นกล้วย ต้นราตรี ต้นตะเคียน ฯลฯ มีนางไม้หรือเทวดานั้น ถ้าเราตัดไป ก็ควรต้องรีบปลูกทดแทนคืนให้หรือหาต้นไม้อื่นให้อยู่แทนต้นที่ตัดไป ใช่ไหมคะ ขอความกรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
อยากทราบด้วยคนค่ะ ว่าต้นไม้ขนาดใด ประเภทใด เป็นที่สิงสถิตย์เป็นวิมานของเทวดา?
เพราะเมื่อหลายปีก่อนเคยให้เพื่อนบ้านโค่นต้นมะพร้าวทิ้ง เพราะต้นมะพร้าวของเค้ายื่นเข้ามาในบริเวณบ้านเกือบครึ่งต้น ทำมุม ๔๕ องศา (โดยประมาณ) แล้วยอดก็หนักพราะมีลูกมะพร้าวห้อยกันอยู่หลายทะลาย เกรงว่ามันจะล้มทับบ้านค่ะ และลูกมะพร้าวก็อาจหล่นใส่ศีรษะคนในบ้านด้วย.....ไม่ทราบว่าต้นมะพร้าวเป็นวิมานของรุกขเทวดาด้วยรึเปล่า กระทำไปด้วยความไม่รู้จริงๆ ค่ะ
เรียนความเห็นที่ 4 และ 5
ตอบคำถามในเรื่องที่ว่าต้นไม้ขนาดใด ประเภทใด เป็นที่สิงสถิตย์เป็นวิมานของเทวดา?
สัตว์โลกมีจำนวนเป็นอนันต์นับประมาณไมได้ครับ แม้เทวดาก็มีมากมายนับประมาณไม่ได้ เทวดาที่เป็นพวกภาคพื้นคือมีวิมานอยู่ที่ต้นไม้ก็มีมากมายสุดจะนับ และเรื่องของภพภูมิเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง ผู้ที่จะรู้ก็คือพระพุทธองค์ซึ่งได้ทรงแสดงไว้ในธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
ในความเป็นจริงแล้ว เทวดาที่อาศัยอยู่ต้นไม้มีมากมาย โดยที่สุดแม้ต้นหญ้าก็มีวิมานของเทวดาอยู่ ไม่ต้องกล่าวถึงต้นกล้วย ต้นตะเคียนหรือต้นมะพร้าวจะมีวิมานอยู่หรือไม่ ต้องมีแน่นอนครับ ซึ่งมีแสดงไว้ในพระธรรมดังนี้
เชิญคลิกอ่านที่นี่...
ต้นไม้อะไรบ้างมีวิมานของเทวดา [อรรถกถาคิลานสูตร]
ในประเด็นของการตัดต้นไม้นั้น กรรมอยู่ที่เจตนา เราไม่เจตนาทำร้ายเทวดา บาปก็ไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อทราบก็ควรบอกกล่าวว่าจะตัด เมื่อท่านทราบ ท่านก็สามารถรู้และย้ายไปที่อื่นได้ บาปไม่บาปสำคัญที่เจตนาครับ
ขอบคุณค่ะ
คงต้องขึ้นอยู่กับเจตนาจริงๆ ส่วนเทวดาท่านก็มีวิบากกรรมของท่าน แต่แหม....ท่านไม่น่าไปสร้างวิมานอยู่บนหญ้าเลยนะคะ ไหนจะถูกตัด ถูกเหยียบ ถูกแทะ ถูกเล็ม.........เกิดเป็นเทวดาทั้งทีน่าจะสุขสบายกว่านี้อะ
สัตว์โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาปจริงๆ ค่ะ
อืม...แล้วการปลูกต้นไม้ในบ้านล่ะค่ะ เป็นการสร้างวิมานให้เทวดาหรือเปล่า?
การปลูกต้นไม้ในบ้าน ส่วนใหญ่เราปลูกด้วยความชอบ ความยินดีติดข้อง หรือบางท่าน
ก็ปลูกด้วยกุศลจิต ใคร่ให้ผู้อื่นได้รับความเย็นสบายกายจากร่มไม้ เห็นประโยชน์ที่คนอื่นจะได้เป็นหลัก หรือปลูกเพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัย เช่น ต้นโพธิ์ เป็นต้น ส่วนตัวคิดว่าคงจะมีน้อยมากๆ ที่จะมีคนปลูกถวาย เพื่อให้เทวดามาอาศัยเกิดที่ต้นที่ตนปลูก
ถ้าเราเห็นรุกขเทวดา นั่นก็อาจจะเป็นปัจจัยให้ปลูกก็ได้นะครับ แต่เมื่อไม่เห็น ก็ยากแม้
เพียงจะคิดถึงกุศลขั้นทาน การสละวัตถุสิ่งของให้ในบุคคลที่เรามองไม่เห็น ส่วนใหญ่
ก็จะเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้เทวดาและอมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อเราได้กระทำกุศลกรรม
นั้นๆ เสร็จแล้วเสียมากกว่าครับ
เรียนความเห็นที่ 10
ต้นไม้ที่ปลูกในบ้าน มีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยไปอาศัยอยู่ เป็นการสร้างที่อยู่ให้สัตว์เดรัจฉานหรือไม่
ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่ว่าใครจะปลูกต้นไม้อะไร สัตว์ทั้งหลายไม่ว่าสัตว์เดรัจฉานหรือเทวดาหรือสัตว์ประเภทอื่น เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็มีโอกาส ไปอยู่ ณ สถานที่นั้นได้ อยู่ที่ต้นไม้ที่เราปลูกได้เป็นธรรมดา บ้านของเราที่เราอยู่ เราสร้างก็เพื่อให้เราอยู่ แต่ก็มีสัตว์อื่นๆ มากมายมาอยู่ เราไม่ได้สร้างบ้านให้เขาอยู่ แต่สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นมาตามกรรมของเขาเอง แม้บ้านที่อยู่ ก็ยังมีเทวดาที่อาศัยที่ต่างๆ เป็นวิมานของเขาได้เช่น บริเวณประตูก็ได้ครับ เราสร้างให้เราอยู่แต่ก็มีสัตว์ประเภทอื่นมาอยู่ก็ได้ตามเหตุตามปัจจัยและตามกรรมของเขาครับ เช่นเดียวกับเรื่องเทวดาที่อาศัยต้นไม้อยู่ก็เช่นกันครับ
ถ้าเป็นอย่างที่ท่านเผดิมว่า การตัดหญ้า แต่งต้นไม้ในบ้าน เทวดาท่านคงต้องเตรียมใจ (ในฐานะผู้อาศัย) แล้วล่ะค่ะ
การเกิดเป็นทุกข์ดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้จริงๆ
ป.ล. ที่กล่าวไว้ใน คห ๑๐ ไม่ได้หมายถึงว่าปลูกต้นไม้เพื่อถวายเป็นวิมานนะคะ แต่ปลูกแล้วเทวดาเข้ามาอาศัยเป็นวิมานของท่านค่ะ
จิตคิดนี่วิจิตรจริงๆ คิดไปถึงว่าเป็นการปลูกโดยไม่มีจาคเจตนา หลงประเด็นไปนิดครับ คำตอบทั้งหมด คห.ที่ 12 ท่านกล่าวไว้ดีแล้ว
ขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ ได้ความรู้ใหม่หลายประเด็นเลยค่ะ
ขออนุโมทนาครับ