ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เฉพาะกุศลขั้นทานและศีลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
แม้จะพิจารณาเห็นประโยชน์และรู้โทษ
การที่จะเจริญกุศลด้วยการเห็นว่าเป็นประโยชน์หาใช่เรื่องง่ายๆ ไม่...
เหตุใด...กุศลที่สลับกับโลภะ...จึงเจริญง่ายกว่ากุศลที่สลับกับโทสะ...
ชื่อก็บอกแล้วว่า...กุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ปกติเรามีโลภะเป็นพื้นเกือบตลอดเวลาที่กุศลจิตไม่เกิด เช่น ทางตาก็อยากเห็นรูปที่
สวยงาม ฯลฯ ส่วนโทสะมีใครบ้างที่โกรธได้ทั้งวันทั้ง 24 ชั่วโมง กุศลเกิดยากแต่ขอ
ให้เกิดเถิดถึงแม้ว่าจะเป็นกุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญาก็ยังดีกว่าเป็นอกุศลทั้งวันค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอกุศลธรรมหรือกุศลธรรม ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ปกติในชีวิตประจำวันของผู้ที่ยังมีกิเลส ยังถูกผูกมัดไว้ด้วยกิเลสประการต่างๆ จึงมีอกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดา เกิดมากกว่ากุศลด้วย ตามความเป็นจริง อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดีงาม ไม่นำประโยชน์อะไรๆ มาให้ใครเลยมีแต่จะนำทุกข์มาให้ในภายหลัง ขณะที่จิตเป็นอกุศลย่อมเร่าร้อนเพราะอกุศลเจตสิกประการต่างๆ ที่เกิดร่วมด้วย ในทางตรงกันข้าม ขณะที่จิตเป็นกุศลนั้นย่อมผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เพราะไม่มีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมได้เลย เป็นจิตคนละประเภทกัน การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นปกติบ่อยๆ เนืองๆ เมื่อมีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ย่อมจะเป็นผู้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เห็นโทษเห็นภัยของอกุศล และเห็นคุณค่าของกุศลธรรม ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ไม่ประมาททั้งในกุศลและในอกุศลแม้จะเล็กน้อย (อกุศลแม้จะเล็กน้อยก็เห็นว่าเป็นโทษ กุศลแม้เล็กน้อยก็ไม่มองข้าม) เป็นผู้เจริญกุศลประการต่างๆ ขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน ถึงแม้กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา จะเกิดน้อยหรือไม่เกิดเลย ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ทอดธุระ ไม่ใส่ใจในการเจริญกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าเมื่อกุศลไม่เจริญ ก็เป็นโอกาสของอกุศลที่นับวันจะพอกพูนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังอีกยาวไกล บุญทั้งหลายเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย จนกว่าจะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ในที่สุด ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ผู้ที่มีกำลังกุศลเจริญได้ ก็เพราะมีความรู้ความเข้าใจธรรม ที่เป็นเหตุให้
ค่อยๆ คลาย ความเห็นแก่ตัว และเห็นแก่คนอื่นมากกว่าตัวเอง กุศลย่อมเจริญขึ้น
ผู้ไม่ได้ศึกษาเข้าใจธรรมย่อมมีความเห็นแก่ตัวมากกุศลจึงเกิดยากและมากไปด้วยอกุศล
ผมยังมีอกุศลอยู่ ยังต้องขัดเกลากิเลสต่อไปเพื่อละ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สภาพธรรมทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นต้องอาศัยเหตุปัจจัย กุศลธรรมก็ต้องอาศัยเหตุ
ปัจจัยเกิดขึ้นเช่นกัน มีการฟังธรรม คบสัตบุรุษและการพิจารณาโดยแยบคาย เป็นต้น
สัตว์โลกสะสมอกุศลมามาก จึงเป็นปัจจัยให้อกุศลเกิดมากกว่ากุศล แต่เพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่เกิดกุศลตามที่กล่าวมา กุศลก็เกิดมาขึ้นแต่ก็สลับกับอกุศลที่เกิดขึ้นเป็น
ปกติในชีวิตประจำวันครับ
เหตุใด...กุศลที่สลับกับโลภะ...จึงเจริญง่ายกว่ากุศลที่สลับกับโทสะ...
ควรพิจารณาว่าโลภะเป็นสภาพธรรมที่ติดข้องต้องการ ติดในสภาพธรรมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกุศล อกุศล นามธรรมและรูปธรรม เว้นเพียงโลกุตตรธรรม 9 มี พระนิพพาน เป็นต้น ที่โลภะไม่ติดข้อง จะเห็นได้ว่า โลภะติดข้องในทุกอย่างในชีวิตประจำวัน เมื่อไมได้ศึกษาธรรมก็ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น....แต่เมื่อศึกษาธรรมก็เพิ่มความติดข้อง
ในกุศลธรรมเพราะรู้ว่ากุศลธรรมเป็นสิ่งที่ดีให้ผลวิบากที่ดีก็ติดข้องในกุศล จึงทำกุศล
อาศัยโลภะเป็นปัจจัยจึงเกิดกุศลจิต กุศลจิตจึงเกิดสลับกับโลภะได้บ่อยเพราะโลภะ
ติดข้องในทุกอารมณ์เว้นโลกุตตรธรรม 9 เท่านั้น ส่วนโทสะจะเกิดกับอารมณ์ที่ไม่น่า
พอใจ โทสะไม่ใช่สภาพธรรมที่ติดข้อง จึงไมได้เกิดบ่อยเหมือนโลภะที่สามารถติด
ข้องต้องการในสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิตประจำวันแม้แต่การทำกุศลก็ติดข้องได้ครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
สาธุ
เพราะคุ้นเคยกับอกุศลต่างๆ มากจนไม่เคยรู้เลยว่า นั่นเป็นอกุศล
เมื่อได้ยินประโยคที่ว่า
"วันๆ หนึ่ง กุศลจิตเกิดน้อยกว่าอกุศล"
และ
"โลภะติดในกุศลได้"
ดิฉันถึงได้พอเข้าใจบ้างว่า กุศลเป็นสิ่งที่เจริญได้ยากจริงๆ
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา จึงยิ่งยากกว่านั้นมากนัก
เพราะดิฉันแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่า
บางวัน...ไม่มีกุศลจิตเกิดเลยแม้แต่น้อย
สารภาพว่า...ยังเป็นผู้ประมาทอยู่ทุกวันจริงๆ ค่ะ
ขออนุโมทนาคุณ Khaeota
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
บางคนหรือแม้แต่ตัวเราเอง ยังเคยประมาทในโอกาสที่จะได้เจริญกุศล แม้ขั้นทาน
และ ขั้นศีล ด้วยซ้ำค่ะ เราจึงไม่ควรละเลยและประมาทแม้ในกุศลเพียงเล็กๆ น้อยๆ