ขอความกรุณาท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างของการประจักษ์แจ้งในสภาพธรรมะ ในสมัยนี้ยังมีอยู่หรือคะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ทำกิจหน้าที่ การประจักษ์แจ้งธรรม ก็ไม่ใช่เราประจักษ์แจ้ง แต่เป็นกิจหน้าที่ของสภาพธรรม คือ ปัญญา ที่เป็นสภาพธรรมที่รู้ตามความเป็นจริง และปัญญาที่ประจักษ์แจ้งว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ก็คือขณะนี้ที่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่า ไม่ใช่เรา เป็นแต่เพียงธรรม ซึ่งปัญญาระดับนี้เกิดขึ้นได้ เพราะอาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรมในหนทางที่ถูกต้องอย่างยาวนาน สะสมมาแล้วในอดีตชาติมามากมาย เพราะฉะนั้น หากผู้ใดสะสมปัญญามาในอดีต ก็ย่อมสามารถประจักษ์แจ้งในสภาพธรรมในขณะนี้ได้ แม้ในปัจจุบันนี้ก็เช่นกัน ผู้ใดสะสมความเข้าใจถูก ก็สามารถเกิดปัญญาประจักษ์แจ้งในลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้ได้ครับ

ขออนุโมทนา

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ต้องพิสูจน์เองค่ะ...

สาธุๆ ๆ ขออนุโมทนาคะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าหากว่าไม่มีการศึกษาพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่มีทางที่จะมีปัญญาเจริญขึ้นในขั้นต่อไปที่เป็นขั้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง จนถึงขั้นประจักษ์แจ้งความจริงดับกิเลสตามลำดับขั้นได้เลย พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรม แล้วทรงแสดงให้ผู้อื่นได้รู้ตามความเป็นจริง ทรงแสดงพระธรรมตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ก็เพื่อประโยชน์คือความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษาอย่างแท้จริง เพราะธรรมไม่ง่ายและไม่สามารถคิดธรรมเอาเองได้

ถ้าเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ก็จะไม่ว่างเว้นจากการศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาเลย ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ดำเนินตามหนทางที่พระอริยสงฆ์สาวกดำเนินแล้วซึ่งเป็นหนทางเดียวและเป็นหนทางเดิม คือหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

อนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ