ประโยชน์ของการเข้าใจ...เรื่องปัจจัยต่างๆ
โดย พุทธรักษา  26 ก.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 9991

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ณ ตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๒๕ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

สำหรับประโยชน์ของการเข้าใจเรื่อง อนันตรูปนิสสยปัจจัย และปัจจัยอื่นๆ ทั้งหมดก็เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสภาพธรรมและการปฏิบัติ คือการอบรมเจริญปัญญา

ถ้ามีการเข้าใจผิดในเรื่องการปฏิบัติ ก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ เช่น ถ้าคิดว่าปัญญาไม่สามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงในขณะนี้ก็ไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ แล้วจะไม่เข้าใจด้วยว่าปัจจัยทั้งหลายที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้แล้วนั้น เพื่อที่จะให้รู้ลักษณะที่เป็น อนัตตา จริงๆ

แม้แต่ อนันตรูปนิสสยปัจจัย ถ้าสติไม่เกิดระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้จะไม่ทราบเลยว่า อนันตรูปนิสสยปัจจัย คืออะไร แต่ถ้าเป็นผู้มีปกติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจในขณะนี้จริงๆ จะเห็นได้ว่า ทั้งๆ ที่เห็นไม่นานเลย เพราะว่า อนันตรูปนิสสยปัจจัย ทำให้เกิดการได้ยินขึ้นและ ทั้งๆ ที่กำลังได้ยินนี้เอง ก็ไม่นานเลยเพระว่า อนันตรูปนิสสยปัจจัย ทำให้เกิดการคิดนึกเรื่องต่างขึ้น

เพราะฉะนั้น ชีวิตตามปกติตามความเป็นจริง ของแต่ละคนสติสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทางทวารต่างๆ ซึ่งปกติมักจะหลงลืม แม้ว่าสภาพธรรมจะปรากฏทางตา ชั่วขณะเล็กน้อยปรากฏทางหู ชั่วขณะเล็กน้อย ปรากฏทางใจ คิดนึกแต่ละคำ เพียงชั่วขณะเล็กน้อยก็ไม่เห็นความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยต่างๆ ถ้าปราศจากปัจจัยต่างๆ แล้ว สภาพธรรมแต่ละอย่างจะปรากฏไม่ได้เลย

แต่เมื่อเป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐาน เมื่อไหร่จะเริ่มรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่เกิดปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงทีละเล็กทีละน้อย จนสามารถจะเข้าถึง สภาพที่เป็นอนัตตา แม้เรื่องของอนันตรูปนิสสยปัจจัยและปัจจัยทั้งหลายที่ได้ฟังและได้ศึกษามาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสภาพธรรมแต่ละอย่างนั้น เป็นอนัตตาจริงๆ

ถ้าปราศจากปัจจัย แม้เพียงปัจจัยหนึ่ง ปัจจัยใดซึ่งเป็นเหตุให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้น สภาพธรรมนั้นก็เกิดขึ้นไม่ได้ เช่น อนันตรูปนิสสยปัจจัยถ้าขาดปัจจัยนี้การได้ยินก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ การคิดนึก ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ การเห็น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสต่างๆ ซึ่งเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมจะเกิดไม่ได้

เพราะฉะนั้น การศึกษาทั้งหมด เพื่อที่จะเกื้อกูลให้สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามปกติ ตามความเป็นจริง

ท่านผู้ฟัง เคยนอนไม่หลับไหม บางท่านรู้สึกเป็นห่วงมาก กับการนอนไม่หลับแต่เพราะเหตุใด จึงนอนไม่หลับ ถ้าไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย การนอนไม่หลับจะเกิดขึ้นไม่ได้ไม่ว่าอยากจะหลับ แล้วก็ไม่หลับก็เป็นเพราะเหตุปัจจัย หรือว่าไม่อยากจะหลับแต่ก็หลับ เช่น ขณะที่ฟังพระธรรม บางท่านอาจจะเผลอไปหลับไป ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะหลับเลยแต่ถ้าปราศจากเหตุปัจจัย
การหลับในขณะนั้น ก็เกิดขึ้นไม่ได้แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสภาพธรรมทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา



ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 27 ก.ย. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 2    โดย อิตถินทรีย์  วันที่ 27 ก.ย. 2551

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย happyindy  วันที่ 27 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย เมตตา  วันที่ 28 ก.ย. 2551

แม้เรื่องของ อนันตรูปนิสสยปัจจัย และปัจจัยทั้งหลายที่ได้ฟัง และได้ศึกษามาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสภาพธรรมแต่ละอย่างนั้น เป็นอนัตตาจริงๆ

ถ้าปราศจากปัจจัย แม้เพียงปัจจัยหนึ่ง ปัจจัยใดซึ่งเป็นเหตุให้สภาพธรรมนั้น เกิดขึ้น สภาพธรรมนั้น ก็เกิดขึ้นไม่ได้ เช่น อนันตรูปนิสสยปัจจัยถ้าขาดปัจจัยนี้การได้ยินก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ การคิดนึกก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ การเห็น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสต่างๆ ซึ่งเป็นปกติในชีวิตประจำวันก็ย่อมจะเกิดไม่ได้

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย คุณ  วันที่ 20 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย pamali  วันที่ 5 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย phawinee  วันที่ 26 ส.ค. 2556

อนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย papon  วันที่ 7 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย swanjariya  วันที่ 11 พ.ค. 2557

อนุโมทนาขอบคุณค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย สิริพรรณ  วันที่ 25 ส.ค. 2558

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ