กรุณาอธิบายด้วยค่ะ
พระพุทธเจ้าสอนว่า คนเราเกิดมาเพื่อรับผลกรรมในอดีต (คือชาติก่อน) ผลกรรม คือการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส ทั้งดีและไม่ดีค่ะ
เกิดมาเพื่อใช้กรรมและสร้างกรรมใหม่ค่ะ
คำถามนี้ ตอบได้หลายอย่างครับ เพราะต้องดูความเข้าใจของผู้ถามก่อน ว่าเข้าใจอย่างไร ถ้าเข้าใจว่า มีคนเกิด สัตว์เกิด เข้าใจว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนที่ตายแล้วเกิด ก็ยังเป็นความเข้าใจผิด
คน สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เทวดา พรหม เป็นเพียงสมมติบัญญัติครับ สภาวธรรมที่มีลักษณะปรากฏตามความเป็นจริง เป็นเพียง จิต เจตสิก รูป ที่เกิดดับอย่างรวดเร็วเท่านั้นเอง ตราบใดที่ยังมีอวิชชา (ความไม่รู้) ตราบนั้น จิต เจตสิก รูป ก็จะเกิดดับต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
มีแต่ธรรมครับ คือ จิต เจตสิก รูป จิตเกิดขึ้นและก็ดับไป ตราบใดที่ยังมีกิเลสก็เป็นปัจจัยให้ทำกรรมดีหรือไม่ดี และกรรมดีหรือไม่ดีนั้นก็ให้ผลก็ย่อมต้องเกิดอีกครับ แต่เป็นจิต เจตสิกและรูปเกิด แต่ว่าโดยโวหารให้เข้าใจคือ เป็นคน เป็นสัตว์ แต่ตามความเป็นจริงคือ สภาพธัมมะที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ขออนุโมทนาครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เป็นธรรมที่เกิด ไม่ใช่ "เรา" ที่เกิด เนื่องด้วยปัจจัยอันท่านได้กล่าวแล้ว
ขออนุโมทนา
ถ้าหากว่าไม่เกิด ก็ต้องไม่ตาย
การเกิด น่าจะเกิดตัณหาครับ คือความอยาก ยังยึดติดอยู่ในขันธ์ ๕ ครับ รูป เวทนาสัญญา สังขาร วิญญาณ ถ้ายังมีตัณหาก็ยังเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้นครับ ถ้าไม่อยากเกิด (นิพพาน) ก็ต้องตัดตัวตัณหา และ ละขันธ์ ๕ ให้ได้ครับ อย่ายึดติดกับ รูปเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ผิดถูกอย่างไร ชี้แนะด้วยครับ
ขออนุโมทนาครับ
วิธีปฏิบัติ (หนทาง-มรรค-วิปัสสนา) ที่จะตัดตัวตัณหาและละขันธ์ ๕ นี่สิครับ สำคัญที่สุด
ขออนุโมทนาทุกท่านที่ตอบคำถามธรรมสำหรับหัวข้อนี้คุณ Pornchai.S ตอบคำถามให้ดิฉันเข้าใจที่สุด
อนุโมทนาค่ะ
ธรรมะ ถ้าไม่เกิดก็ไม่ปรากฏ
อนุโมทนาค่ะ
เพราะไม่รู้ความจริงซิครับจึงต้องเกิด ถ้ารู้ความจริงแล้วก็ไม่ต้องเกิดอีก รู้ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการรู้เรี่องราวนะครับ
ขออนุโมทนาครับ
ธรรมเกิด จิต เจตสิก รูปเกิด มีกิเลสจึงทำกรรม และมีผลของกรรมคือ จิต เจตสิก รูปที่เกิด
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ