ห่วงโลก กลัวโลกจะแตกหรือเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพราะไม่รู้จักโลกตามความเป็นจริงว่าโลกคือสภาพธรรมะที่กำลังเกิดและดับไปไม่เหลือในขณะนี้เอง
จากการสนทนาธรรมที่กนกรัตน์รีสอร์ท อัมพวา ๑๘ ก.ย. ๖๐
ตราบใดที่ยังไม่รู้จักโลกก็ห่วงโลก เพราะไม่รู้ว่าโลกแตกแล้ว กำลังแตกอยู่ ห่วงโลกเพราะไม่รู้จักโลก ถ้ารู้จักโลกจะไม่ห่วงเพราะไม่มีเรา สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับไป ... ห่วงตรงไหน!!! ขณะนี้เห็นเกิดขึ้นแล้วดับไป..ห่วงตรงไหน..ยังไม่เห็นใครห่วงเห็นเลย พอได้ยินเกิดขึ้นแล้วดับไป..ไหนห่วงโลก ก็เป็นแบบนี้เกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังไม่รู้จักโลกจึงห่วงโลก ถ้ารู้จักแล้วจะห่วงได้อย่างไร เกิดและดับไปไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ตาหูจมูกลิ้นกายเกิดดับตลอดเวลา
ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะเต็มไปด้วยความเดือดร้อนเพราะโลก เพราะเห็น เพราะได้ยิน แต่ถ้ามีความเข้าใจจะเห็นว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปลดเปลื้องทุกข์ทั้งหมด
เพราะไม่เข้าใจว่าเป็นธรรมะไม่ใช่เรา พอมีเราก็สารพัดอย่างที่จะห่วง ที่จะกลัว ที่จะอยากได้ แต่พอรู้ว่าไม่ใช่เราเป็นธรรมะ แม้แต่ความอยากก็ไม่เหลือเลย เข้าใจในความไม่เหลือจะรู้ว่าติดข้องในสิ่งที่ไม่มีมานานแสนนาน จนกว่าจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วติดข้องในสิ่งที่ไม่มี ไม่มีแล้วยังติดข้องเพราะหลงเข้าใจว่ายังมี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโทษของอกุศลธรรมว่าเป็นข้าศึกผู้ประทุษร้าย ผู้เบียดเบียนจิตใจ ผู้นำมาซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ทั้งหลาย แต่ก็ไม่รู้ตามความเป็นจริงเพราะแม้ข้าศึกก็เกิดดับ แต่ไม่รู้ตามความเป็นจริงคิดว่ามีข้าศึกถาวร
คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ดีแล้ว เพราะได้ทรงประจักษ์แจ้งโลกตามความเป็นจริง ชาวโลกไม่สามารถรู้จักโลกตามความเป็นจริง ฟังแต่ละคำ คิดพิจารณา เข้าใจตามลำดับขั้นของการฟังนำไปสู่ขั้นของการประจักษ์แจ้งตามความเป็นจริง
รู้จักโลกจึงพ้นจากโลก ถ้าไม่รู้จักโลกก็ไม่พ้นจากโลก ยังเกลียดชังโลก ยังโกรธโลก ยังติดข้องโลก เพราะไม่รู้จักโลกว่าแท้ที่จริงเกิดแล้วดับแล้ว ไม่มีอะไรเลยนอกจากธรรมะที่เกิดดับ
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ