ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๙๘
~ ข้อสำคัญที่สุด ทำไมกล้าที่จะบวช เพราะว่าการบวช ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใครจะไปขอให้ใครบวช และก็เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้บวช เพราะขัดเกลากิเลสหรือเพราะเข้าใจธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะเข้าใจธรรมและขัดเกลากิเลส บวชทำไม?
~ บวชหรือไม่บวช ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมด้วยความเคารพด้วยความเข้าใจทีละคำเขาก็ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าคำของพระองค์ทุกคำ ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
~ ไม่เคารพในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ไม่ทำสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อไม่ทำสิ่งที่ถูกต้อง ก็ทำสิ่งที่ผิดและเป็นโทษ
~ ผู้ที่เป็นผู้ที่ตรง และจริงใจ และมีความมั่นคงในคุณความดี ในความถูกต้อง ก็จะไม่เบื่อ ไม่ท้อถอย ไม่คิดว่าไร้ประโยชน์ที่จะกล่าวคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้วให้คนอื่นได้ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เห็นประโยชน์
~ ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะรู้จักสิ่งที่มีจริงๆ เดี๋ยวนี้ซึ่งเป็นธรรม แค่นี้ก็ไม่คิดหรือ? ไปคิดธรรมเองทำไม แทนที่จะศึกษาธรรม
~ การที่จะเข้าใจพระธรรม เป็นความดีที่ประเสริฐกว่าอย่างอื่น ตั้งแต่เกิดมา ดีก็มีหลายอย่าง แต่ดีกว่าอย่างอื่น ก็คือ ได้เข้าใจความจริง เพราะฉะนั้น ความจริงเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่จะเป็นสิ่งที่รู้ได้ง่ายเลย รู้ได้แสนยาก พอได้ยินคำนี้ ก็เข้าใจความหมายของคำว่าอดทน อดทนเหนืออย่างอื่นคือไม่ใช่เพียงแต่อดทนที่จะละชั่ว ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี และ อดทนทำความดี แต่อดทนยิ่งกว่านั้น คือ อดทนที่จะเข้าใจสิ่งที่ยากแสนยากและมีค่าที่สูงสุดคือพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
~ ถ้ามีแต่โลภะ (ความติดข้องต้องการ) วันหนึ่งก็จะต้องมีปัจจัยให้เกิดโกรธขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นเมตตา (ความเป็นมิตรเป็นเพื่อน) แล้ว ยิ่งเมตตาเจริญขึ้น ความโกรธก็จะน้อยลง ความหวังดีจริงๆ ก็จะเพิ่มขึ้น
~ ธรรมะที่เป็นอกุศล ใครจะอยากเก็บไว้มากๆ แต่เพราะความไม่รู้ ด้วยความไม่รู้นั่นแหละก็สะสมโดยไม่เห็นโทษภัย
~ ประโยชน์สูงสุดก็คือ เมื่อเกิดมาด้วยผลของกุศลกรรม แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์ มีโอกาสได้ฟังธรรม เป็นคนดีพอหรือยัง หรือว่าควรทำความดีให้มากกว่านี้อีก โดยเฉพาะการเข้าใจธรรม
~ แต่ละบุคคลก็มีอัธยาศัยต่างๆ กัน พุทธบริษัทก็มีทั้งที่เป็นบรรพชิต และเป็นคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้น สะสมมาอย่างไร สภาพธรรมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยอย่างไร ก็พิจารณาเพื่อที่จะรู้ในลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
~ ถึงแม้ว่าคนอื่นจะโกรธ ก็ไม่ควรที่จะเอาชนะความโกรธของคนอื่นด้วยการโกรธตอบ แต่ว่าเมื่อคนอื่นโกรธ เราชนะกิเลสของตนเองโดยไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธตน นั่นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
~ เมื่อคนอื่นได้ดี ก็เดือดร้อน เป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?เขาได้ดีแท้ๆ เดือดร้อนทำไมแต่สภาพธรรมที่เป็นความริษยาเกิดแล้วจึงริษยาในสิ่งที่คนอื่นได้ เกิดร่วมกับโทสะ (ความไม่พอใจ) ถ้าเป็นมิตรแล้ว ไม่ริษยา เป็นเพื่อน หวังดีที่เขาได้ดี ก็ดีทำไมจะต้องไปเดือดร้อนริษยาเขา แต่ธรรม ก็เป็นธรรม
~ ทุกคนไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร ทำประโยชน์หรือคุณความดีพอหรือยัง?
~ ไม่ว่าการกระทำใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนั้นถ้าปัญญาเกิดก็วัดได้เลยว่า ขณะนั้นมีอะไรที่สะสมมามาก มีโลภะสะสมมามาก มีโทสะสะสมมามาก มีเมตตาสะสมมามาก มีกรุณาสะสมมามาก หรือว่ามีปัญญาสะสมมามาก ส่วนใหญ่เป็นไปกับอกุศล ใกล้ชิดมอมเมาติดแน่น จนไม่รู้ว่า ตัวเองดำสกปรกด้วยอกุศล
~ ผู้มีปัญญาสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยกุศลจิต ด้วยความหนักแน่นมั่นคงในคุณความดีหรือในธรรมฝ่ายกุศล เพราะฉะนั้น ก็สามารถแก้ทุกสถานการณ์ได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะในขณะนั้น แต่แม้ในขณะต่อๆ ไป กุศลก็ไม่ได้ให้โทษเลย
~ ธัมมเตชะ (ธรรมเดช) คือ พระพุทธวจนะ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สามารถทำให้ธาตุที่ไม่รู้ ค่อยๆ หมดสิ้นไป แล้วมีธาตุที่รู้ถูก เข้าใจถูกเพิ่มขึ้น
~ คนที่ไม่รู้ความจริง อกุศลมาก อกุศลไม่เป็นประโยชน์กับใคร แม้กับตัวเองและคนอื่น แต่เวลาที่กุศลเกิดขึ้น ไม่ใช่สำหรับตัวเองเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย
~ ตั้งแต่เกิดจนตายก็เป็นธรรม ไม่ว่าจะคิด จะทำ จะพูด ทั้งหมดก็เป็นธรรม
~ ตราบใดที่ยังมีปัจจัยให้เกิดอกุศล ความรวดเร็วของอกุศลก็คือว่า ไม่นานเลย จากหลับสนิท แค่ตื่นเห็น ถึงเวลาที่อกุศลจะเกิดแล้ว ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พึ่งพระธรรมได้อย่างไร
~ ธรรมทั้งหลาย ทั้งหมด ไม่เว้นเลย เป็นอนัตตา ไม่ใช่ของใคร ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ขณะนี้ฟังให้เข้าใจตรงนี้ เพื่อสะสมความเห็นถูกนี้ไปเรื่อยๆ
~ ความเข้าใจต่างหากที่คลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน
~ สนใจที่เข้าใจธรรม เพราะมีความเข้าใจถูกต้อง จึงนำมาซึ่งกุศลธรรมทั้งหลาย จนถึงสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
~ ในบรรดาธรรมทั้งหลาย ปัญญาประเสริฐสุด เพราะสามารถเข้าใจสิ่งที่ถูกปกปิดนานมาก
~ ก่อนที่จะได้ฟังธรรม ทุกคนก็มีความเห็นผิด มากบ้าง น้อยบ้าง แต่พอได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็เป็นผู้ที่ตรง (เข้าใจในเหตุในผล ตามความเป็นจริง)
~ ความเห็นผิด มีมาก เมื่อไม่รู้ความจริง, พระธรรมที่ทรงแสดงก็ทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในเหตุและในผล
~ การจะรู้ว่าสิ่งใดผิด ก็ต้องเป็นปัญญา ถ้าไม่มีปัญญา ก็ทำผิดต่อไป
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา
~ ถ้ารู้ว่ากรรมดีให้ผลดี กรรมชั่วให้ผลชั่ว จริงๆ จะมีทุจริตกรรมไหม? ก็ไม่มี แต่ทั้งโลกที่เป็นอย่างนี้ เพราะเห็นผิดใช่ไหม? เพราะไม่รู้ความจริง ใช่ไหม?
~ ความไม่รู้ มีมากมาย ไม่หมด จนกว่าจะมีความเห็นที่ถูกต้อง.
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๙๗
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
อาจารย์คำปั่นช่วยนำสาระสำคัญมาโพสให้ได้อ่านได้ทบทวน ขอกราบขอบพระคุณและอนุโมทนามากๆ ๆ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นนะคะ ขออนุโมทนาในกุศลทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
~ ความไม่รู้ มีมากมาย ไม่หมด จนกว่าจะมีความเห็นที่ถูก
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาครับอาจารย์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ
และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
การที่จะเข้าใจพระธรรม เป็นความดีที่ประเสริฐกว่าอย่างอื่น ตั้งแต่เกิดมา ดีก็มีหลายอย่าง แต่ดีกว่าอย่างอื่น ก็คือ ได้เข้าใจความจริง เพราะฉะนั้น ความจริงเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่จะเป็นสิ่งที่รู้ได้ง่ายเลย รู้ได้แสนยาก พอได้ยินคำนี้ ก็เข้าใจความหมายของคำว่าอดทน อดทนเหนืออย่างอื่นคือไม่ใช่เพียงแต่อดทนที่จะละชั่ว ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี และ อดทนทำความดี แต่อดทนยิ่งกว่านั้น คือ อดทนที่จะเข้าใจสิ่งที่ยากแสนยากและมีค่าที่สูงสุดคือพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขออนุโมทนาครับ