การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา [มหาจุนทเถรคาถา]
โดย บ้านธัมมะ  19 ส.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 9615

[เล่มที่ 52] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๒ - หน้าที่ 49

เถรคาถา เอกนิบาต วรรคที่ ๒

๑. มหาจุนทเถรคาถา ว่าด้วยคาถาของพระมหาจุนเถระ

[๒๖๘] ได้ยินว่า พระมหาจุนทเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า การฟังดี เป็นเหตุให้การฟังเจริญ การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา บุคคลจะรู้ประโยชน์ ก็เพราะปัญญา ประโยชน์ที่บุคคลรู้แล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ฯลฯ



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 20 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมทั้งหลาย ที่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดั่ง ที่กล่าวว่า ธรรมไม่อิสระ ไม่อิสระ เพราะต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย ซึ่ง คำว่า เหตุปัจจัย ดู เหมือนพูดง่าย แต่มีความละเอียดลึกซึ้ง เพราะ เป็นไปตามเหตุปัจจัยต่างๆ มี ปัจจัย 24 ปัจจัย ปัจจัยใด ปัจจัยหนึ่ง หรือ หลายๆ ปัจจัยก็ได้ ซึ่ง สำหรับ ปัญญา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิกฝ่ายดี เมื่อเป็นเจตสิกแล้ว ก็เป็นสภาพธรรม ที่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้น เป็นไปได้ ซึ่ง ปัญญา เป็นความเห็นถูกนั้น ก็เป็นความเห็นถูกตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่มีหลายระดับ ซึ่ง ปัญญา มี 5 ประการดังนี้

1. ปัญญาที่เชื่อกรรม และ ผลของกรรม

2. ปัญญาที่เป็นไปในการเจริญสมถภาวนา

3. ปัญญาที่เป็นไปในการวิปัสสนา

4. ปัญญาในมรรคจิต

5. ปัญญาในผลจิต

จะเห็นนะครับว่า ปัญญามีหลากหลายระดับ ตั้งแต่ ปัญญา ความอห็นถูกขั้นต้น จนถึงสูงสุด ซึ่งปัญญาจะเจริญได้ ก็ด้วยอาศัยเหตุปัจจัย ซึ่ง เหตุปัจจัยให้เกิดปัญญา ก็ด้วยการฟังพระธรรม ซึ่งพระธรรม นี่เป็นปัจจัยกว้างๆ แต่ หากจะ พิจารณารายละเอียดเหตุให้เกิดปัญญาแล้ว ก็มีปัจจัยหลายประการ

1. การเคารพยำเกรง ผู้ที่เป็นมิตรผู้มีปัญญา

2. การสอบถาม สนทนากับผู้มีปัญญา

3. ความเป็นผู้ได้ ความสงบกาย และ สงบใจ

4. เป็นผู้มีศีล

5. เป็นผู้ฟังมาก

6. เป็นผู้มีความเพียร

7. เมื่ออยู่ในที่ประชุม สนทนาในสิ่งที่เป็นประโยชน์

8. มีปัญญาเข้าใจความจริงของสภาพธรรม

นี่เป็นเหตุ 8 ประการ ให้ได้ ปัญญา

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

เหตุ ๘ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา [ปัญญาสูตร]

จาก ที่กล่าวมา แสดงให้เห็นว่า ปัญญา ความเข้าใจ อาศัยเหตุปัจจัย การสะสม มา จึงเกิดขึ้นได้ การจะมีปัญญาได้ ก้ด้วยการคบสัตบุรุษ การฟังพระธรรม ศึกษา พระธรรมของท่าน ที่เป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นต้น และ ก็เกิด กุศลจิต ประการต่างๆ เป็นเหตุให้เกิดปัญญา ตามทีได้ศึกษา และ ปัญญาก็เพิ่มขึ้นไปตาม ลำดับ ทั้ง ปัญญาที่เชื่อกรรม และ ผลของกรรม ก็เจริญขึ้นได้ ด้วยการศึกษา พระธรรม ปัญญาขั้น สมถภาวนา วิปัสสนา มรรค ผล จะมีได้ ปราศจากการฟัง ศึกษาพระธรรมไมได้เลย ครับ สมดังเช่น ที่พระพุทะเจ้าตรัสไว้ว่า ฟังด้วยดี ย่อม ได้ปัญญา ฟังแล้วพิจารณาไตร่ตรอง ธรรมที่ได้ฟังด้วยดี ย่อมเกิดปัญญา ความ เข้าใจ สะสมไปทีละน้อย ครับ

และเหตุให้เกดิปัญญา อีก 4 ประการ คือ

ใน อัฏฐสาลินี อรรถกถา ธรรมสังคณี ได้แสดงไว้ดังนี้ เหตุให้เกิดกุศลที่มีปัญญานั้น มีดังนี้

โดยกรรม

หมายถึง กุศลกรรมที่ทำแล้วปราถนาน้อมไปให้มีปัญญา ตามปกติ ที่ทำกุศล บางครั้งก็ทำโดยไม่คิดอะไร บางครั้งทำไปเพื่อหวังได้เกิดในภพ ภูมิ ที่ดี หรือบางครั้งทำไปเพื่อจะได้สิ่งตอบแทนมา เช่น ลาภ สักการะ เป็นต้น แต่ กุศลใดที่ทำแล้ว น้อมบุญที่ทำไปนั้นเพื่อให้เข้าใจธรรม หรือเพื่อให้มีปัญญา โดยจุดประสงค์เพื่อดับกิเลส กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัย การกระทำที่กล่าวมา คือ ทำกุศลแล้วน้อมกุศลไปเพื่อมีปัญญา

โดยความเกิดขึ้น กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา

เมื่อเกิด ก็เพราะกุศลนั้นเกิดขึ้น ถ้าไม่เกิด จะทำ ให้กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเกิดขึ้นไม่ได้ครับดังเช่น บุคคลที่เคยอบรมปัญญา มา เมื่อตายไปก็ไปเกิดเป็นเทวดา แต่ภพภูมินั้น เป็นไปด้วยความเพลิดเพลิน แต่เพราะเคยอบรมปัญญามาในอดีต สิ่งเหล่านั้นไม่สูญหาย เทวดาเหล่านั้น ย่อมระลึกเองได้บ้าง กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาจึงเกิดขึ้น เพราะความเกิดขึ้น ของกุศลนั้นเอง

โดยความแก่รอบแห่งอินทรีย์

กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาคือปัญญาจะเกิดขึ้นได้นั้น ก็ต้องอาศัยกาลเวลาที่ เหมาะสม เหมือน การปลูกต้นไม้ ผล ที่จะออกก็ต้องอาศัยกาลเวลา ไม่ใช่แค่ วัน สองวัน ปัญญาที่จะเกิดก็เช่นกัน เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม อบรมมาจนถึงเวลา (อินทรีย์แก่กล้า) ปัญญาก็จะเกิดขึ้นครับ ปัญญามีหลายระดับ ตัวอย่าง เช่น ปัญญาขั้น สติปัฏฐาน ก็ต้องอาศัย ความแก่รอบของอินทรีย์ คือ ฟังจนเข้าใจ จนเหตุปัจจัยพร้อม สติก็เกิดระลึก สภาพธัมมะ ดังนั้น การอบรมปัญญาหรือ ปัญญาจะเกิดขึ้น ต้องมีเวลา และอดทนที่จะฟังต่อไป ขณะใดที่เดือดร้อน ว่า ปัญญาไม่เกิด สติไม่เกิด เพราะเราไม่เข้าใจเหตุของปัญญาว่าจะต้อง มีความแก่ รอบของอินทรีย์ คือ กาลเวลาและเหตุปัจจัยพร้อมที่ได้สะสมมา เป็นระยะเวลา ยาวนานครับ

โดยความเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลส

ทุกคนก็อยากจะมีปัญญา แต่ ปัญญาจะเกิดขึ้น ก็ต้องมีเหตุ คือ ความเป็นผู้ห่าง ไกลจากกิเลส ตรงนี้สำคัญมาก ห่างไกลจากกิเลส เป็นอย่างไร คือ ถ้าเต็มไป ด้วยอกุศลมากๆ ไม่มีเมตตา โกรธ โลภ เป็นต้น ก็เป็นผู้ที่ไม่ห่างไกลจาก กิเลส แต่ผู้ที่ห่างไกลจากกิเลสนั้น คือ กุศลจิตเกิดบ่อยขึ้น (ขณะที่กุศลเกิด อกุศลไม่เกิด) เพราะอาศัยการฟังพระธรรม และรู้ประโยชน์ ของการเจริญกุศล ทุกประการ เพราะขณะที่ไม่เป็นกุศล ขณะนั้นเป็นอกุศลและถ้าอกุศลมีกำลัง มาก ปัญญาขั้นสติปัฏฐานที่ฟังมาน้อย จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อ ยังไม่เป็นผู้ ที่ห่างไกลจากกิเลส ดังมีคำกล่าวว่า ไม่ควรเป็นผู้ประมาทแม้กุศลเพียงเล็กน้อย ดังนั้น ปัญญาจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลส โดยการฟังพระธรรม โดยเฉพาะ เรื่อง บารมี 10 ซึ่งเป็นกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ทาน ศีล เมตตา ขันติ เป็นต้น เมื่อเข้าใจเหตุของปัญญาแล้ว ก็จะไม่ประมาทใน การเจริญกุศล เป็นผู้ที่มีเมตตามากขึ้น อดทนมากขึ้นพร้อมๆ กับการฟังเรื่อง การเจริญสติปัฏฐาน นี้เป็นเหตุปัจจัย ที่จะทำให้ปัญญาเกิดขึ้น โดยเฉพาะ ปัญญาขั้น สติปัฏฐานครับ

จาก ที่กล่าวมาแสดงถึง ทั้งการสะสมมาในอดีต ทีเป็นปัจจัยให้มีการเกิด เกิดจาก กรรมที่ทำให้มีปัญญา และ อาศัยเหตุปัจจัยอื่นๆ อันแสดงให้เห็นว่า ปัญญาจะเกิดขึ้น ได้ ก็ต้องเหตุปัจจัยหลายๆ ประการ แต่ มีการฟัง ศึกษาพระธรรมเป็นสำคัญ ครับ สม ดังที่พระเถระกล่าวว่า

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๒- หน้าที่ 49

๑. มหาจุนทเถรคาถา ว่าด้วยคาถาของพระมหาจุนเถระ

[๒๖๘] ได้ยินว่า พระมหาจุนทเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า

การฟังดี เป็นเหตุให้การฟังเจริญ การฟังเป็น เหตุให้เจริญปัญญา บุคคลจะรู้ประโยชน์ก็เพราะปัญญา ประโยชน์ที่บุคคลรู้แล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ฯลฯ

ดังนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องปัญญา ความเข้าใจ หน้าที่ที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรม ต่อไป ปัญญาจะค่อยๆ เกิด เจริญขึ้นเอง ทีละน้อย เมื่อดำเนินในหนทางที่ถูก ใน อนาคต ย่อมเกิดปัญญา และ เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงถึงการดับกิเลสได้ ในที่สุด เพราะ ปัญญา ไม่ได้หายไปไหนหากเกิดแล้ว แต่สะสมต่อไป จนในที่สุด มีกำลัง ทำหน้าที่ดับกิเลส โดยอาศัย เหตุปัจจัยให้เกิดปัญญาตามที่กล่ามมา ทั้งหมด ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย เมตตา  วันที่ 29 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย Komsan  วันที่ 9 ก.พ. 2552
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 4    โดย Kalaya  วันที่ 5 พ.ย. 2563

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย มกร  วันที่ 12 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย สิริพรรณ  วันที่ 22 พ.ค. 2565

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 22 พ.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ