[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 808
เถราปทาน
คันโธทกวรรคที่ ๓๔
อุตตเรยยทายกเถราปทานที่ ๘ (๓๓๘)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้า
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 808
อุตตเรยยทายกเถราปทานที่ ๘ (๓๓๘)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้า
[๓๔๐] ในกาลนั้น เราเป็นพราหมณ์ผู้เล่าเรียน ทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท อยู่ในนครหังสวดี.
เวลานั้น เราแวดล้อมด้วยพวกศิษย์ของตน เป็นคนมี ตระกูล ศึกษาดี ออกไปจากนคร เพื่อต้องการจะรดน้ำ.
พระชินเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงรู้แจ้งโลภ ทรงรู้ จบมนต์ทั้งปวง เสด็จเข้ามายังพระนคร พร้อมกับพระขีณาสพ หลายพัน.
เราเห็นพระองค์มีพระรูปงามยิ่งนัก ไม่หวั่นไหวเหมือนเขา ทำ (หล่อ) ไว้ แวดล้อมด้วยพระอรหันต์ทั้งหลาย ครั้นแล้ว ได้ยังจิตให้เลื่อมใส เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัส.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 809
ประนมกรอัญชลีเหนือเศียรเกล้า นมัสการพระองค์ผู้มีวัตร อันงาม ได้ถวายผ้าห่ม เราประคองผ้าสาฎกด้วยมือทั้งสอง แล้วยกขึ้น ผ้าสาฎกปกปิด (บังแดดฝน) ตลอดทั่วพุทธบริษัท.
เมื่อหมู่ภิกษุเป็นต้น เป็นอันมาก เที่ยวจาริกไปบิณฑบาต เวลานั้น ผ้าสาฎกได้กั้นเป็นหลังคายังเราให้เกิดโสมนัส.
เมื่อหมู่ภิกษุเป็นต้นจะออกจากเรือน พระศาสดาผู้สยัมภู เป็นบุคคลผู้เลิศ ประทับยืนอยู่ที่ถนน ได้ทรงทำอนุโมทนาว่า
ผู้ใดมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ถวายผ้าสาฎกแก่เรา เรา จักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว.
ผู้นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด ๓ หมื่นกัป จักเป็น จอมเทวดา เสวยเทวรัชสมบัติอยู่ในเทวโลก ๕๐ ครั้ง.
เมื่อเขาผู้พร้อมพรั่งด้วยบุญกรรม อยู่ในเทวโลก จักมีผ้า เป็นหลังคาบังแดดฝนตลอดร้อยโยชน์โดยรอบ.
และจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ๓๖ ครั้ง จักได้เป็น พระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยจะคณนานับมิได้.
เมื่อเขาผู้พรั่งพร้อมด้วยบุญกรรม ท่องเที่ยวอยู่ในภพ สิ่ง ที่เขาปรารถนาด้วยใจทุกอย่าง จักบังเกิดขึ้นทันที.
คนผู้นี้จักได้ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าเปลือกไม้ (ผ้าป่าน) ผ้าฝ้าย และผ้าทั้งหลายอันมีค่ามาก คนผู้นี้จักได้สิ่งที่ตน ปรารถนาด้วยใจทุกอย่าง จักเสวยวิบากแห่งผ้าผืนเดียว ใน กาลทุกเมื่อ.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 810
ภายหลัง เขาอันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักบวช จักกระทำ ธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า โคดม ให้แจ้งชัด.
โอ กุศลกรรมเราได้ทำแล้วแด่พระสัมพุทธเจ้า เราได้ บรรลุอมฤตบท เพราะได้ถวายผ้าสาฎกผืนเดียว ผ้าเป็น หลังคากันแดดฝนให้แก่เรา ผู้อยู่ในมณฑป ที่โคนไม้ หรือ ในเรือนว่าง โดยรอบข้างละวา.
เรานุ่งห่มปัจจัย คือจีวรอันไม่ได้ทำวิญญัติ และได้ข้าว และน้ำ นี้เป็นผลแห่งการถวายผ้าห่ม.
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใด ในกาลนั้น ด้วย กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผ้า.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอุตตเรยยทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบอุตตเรยยทายกเถราปทาน