เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
"ธรรมนิยาม" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาอธิบายในคำนี้ด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
นิยาม คือ ความแน่นอน ความเป็นธรรมดาของสิ่งต่างๆ มี ๕ ประการ คือ
พีชนิยาม (ความแน่นอนของพืช)
อุตุนิยาม (ความแน่นอนของฤดูกาล)
กรรมนิยาม (ความแน่นอนของกรรม)
ธรรมนิยาม (ความแน่นอนของธรรม)
จิตนิยาม (ความแน่นอนของจิต)
พีชนิยาม คือ ความเป็นไปของพืชที่ต้องเป็นไปอย่างนั้น เพราะธรรมชาติเป็นอย่างนั้น เช่น ดอกทานตะวันจะต้องหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เป็นต้น
อุตุนิยาม อันเป็นธรรมชาติเป็นไปอย่างนั้นตามฤดู อากาศ เช่น ต้นไม้ ออกผล ตามฤดู นี้อากาศนี้ เวลานี้ เป็นต้น
กรรมนิยาม คือ ความแน่นอนของกรรมที่เป็นธรรมดาอย่างนั้น เช่น กุศลกรรมย่อมให้ผลในสิ่งที่ดี อกุศลกรรมย่อมให้ผลที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา กรรมนี้ให้ผลแบบนี้ กรรมนี้ให้ผลแบบนี้ อันเป็นไปตามสภาพธรรมที่เป็นกรรม
ธรรมนิยาม คือ ความแน่นอนของธรรม ที่ต้องเป็นไปอย่างนั้น เช่น เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน แผ่นดินต้องไหว เป็นต้น
จิตนิยาม คือ ธรรมของจิตที่ต้องเป็นอย่างนั้น เช่น จิตมีธรรมชาติ คือ รู้อารมณ์ และจิตแต่ละประเภทก็ทำหน้าที่อย่างนั้น ไม่มีใครสั่ง แต่เป็นไปตามจิตที่ทำหน้าที่ เช่น จิตเห็น ก็ทำหน้าที่รู้ สี เปลี่ยนไม่ได้ เป็นความแน่นอนของจิต ธรรมนิยามของจิตเป็นอย่างนั้นและลำดับการเกิดของจิตก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นกัน
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ธรรมนิยาม [อุปปาทสูตร]
ขออนุโมทนา ครับ
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเช่นนี้ทำไม หากไม่เป็นสัจจะ สาระ และประโยชน์แล้วไซร้พระองค์จะไม่ทรงกล่าว แม้คำจริง มีประโยชน์ แต่ไม่อยู่ในกาละที่ควรกล่าว พระองค์จะไม่ทรงกล่าว ต้องพิจารณาด้วย เพราะเวไนยสัตว์มีการสะสมมาที่ต่างกัน บ้างสะสมมามากครั้นพอได้ฟัง เพียงนิดเดียวก็เข้าใจได้ทันที นี่ก็คือพระมหากรุณาคุณที่่ทรงแสดง กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ธรรมนิยาม การบำเพ็ญบารมีตั้งแต่จุติจากดาวดีงส์ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรม ปลงอายุสังขาร ปรินิพพาน ต้องเป็นไปตามลำดับ ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก หรือ ไม่เสด็จขึ้นในโลก ความเป็นจริงของสภาพธรรมไม่เคยเปลี่ยน เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ตาม และใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ไม่ได้ เพราะความเป็นจริงหรือความแน่นอนของสภาพธรรมเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น แต่เมื่อเป็นกาละที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จขึ้นในโลก ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงธรรม ประกาศความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจถึงความเป็นจริงของสภาพธรรม ตามความเป็นจริง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาทั้งท่านผู้ถาม และท่านวิทยากรทุกท่านค่ะ บุญสูงสุดในขณะนี้ คือการได้เข้าใจความจริงจากพระมหากรุณาคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ด้วยการฟังและศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพต่อไปค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ