ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
แนวทางเจริญวิปัสสนาโดย อาจารย์สุจิตน์ บริหารวนเขตต์
บุคคลในครั้งอดีต ถ้าได้เห็นพระวิหารเชตวัน ก็จะได้เห็นศาลา โรงไฟต่างๆ เห็นที่จงกรม เห็นพระผู้มีพระภาค เห็นพระภิกษุสงฆ์ เห็นกิจวัตร เห็นข้อประพฤติปฏิบัติ ของท่านเหล่านี้ ในครั้งโน้น แต่ว่าในสมัยนี้ พระวิหารเชตวันก็ยังเป็นสถานที่น่ารื่นรมย์
แต่ว่าผู้ที่เข้าไปก็ดี ออกมาก็ดี ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาจักษุวิญญาณของผู้นั้น ก็เห็นพระวิหารเชตวันแต่ก็อาจจะ ไม่ได้เป็นผู้ที่รู้ลักษณะของการเห็น รู้ลักษณะของการได้ยิน รู้ลักษณะของเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ที่กำลังปรากฏในขณะนั้น
ไม่เหมือนผู้ที่เข้า ออก ณ พระวิหารเชตวัน ในครั้งโน้นซึ่งไม่ว่าจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี หรือ อุบาสก อุบาสิกาท่านเหล่านั้น ฟังธรรม และ เจริญสติปัฏฐานรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนั้นแล้วแต่ว่า ท่านจะอบรมเจริญสติปัฏฐานกัน มากน้อยนานเท่าไร จึงจะบรรลุมรรคผลได้ ซึ่งเรา ก็ควรจะได้ทราบถึงอดีต ของสถานที่ และ อดีตของบุคคลเพื่อเทียบเคียงกับหนทางปฏิบัติ ให้ถูกต้อง
และพระวิหารเชตวันนั้นเมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างแล้วก็เป็นสถานที่ ที่ทำให้ท่านเกิดความปีติ เป็นอันมากถึงแม้ว่าท่านจะได้สิ้นชีวิตไปแล้วและได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดุสิตท่านก็มาเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลให้ทราบถึงความปีติของท่าน
ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค อนาถบิณฑิกสูตร ที่ ๑๐ มีข้อความว่า
อนาถบิณฑิกเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาค ว่า "ก็พระเชตวันนี้นั้น อันหมู่แห่งท่านผู้แสวงคุณพำนักอยู่พระธรรมราชา ก็ประทับอยู่แล้วเป็นที่เกิดปีติแก่ข้าพระองค์สัตว์ทั้งหลาย ย่อมบริสุทธิ์ด้วยส่วน ๕ นี้ คือกรรม วิชชา ธรรม ศีล และ ชีวิตอันอุดมหาใช่บริสุทธิ์ด้วยโคตรหรือทรัพย์ไม่เพราะเหตุนั้น แหละบุรุษผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตนพึงเลือกเฟ้นธรรม โดยแยบคายอย่างนี้จึงจะบริสุทธิ์ในธรรมนั้นพระสารีบุตร รูปเดียวเท่านั้นเป็นผู้ประเสริฐด้วยปัญญา ศีล และ ธรรมเครื่องสงบระงับภิกษุใด เป็นผู้ถึงฝั่ง ภิกษุนั้นก็มีท่านพระสารีบุตรนั้น เป็นอย่างเยี่ยม" เมื่ออนาถบิณฑิกเทวบุตร ได้กล่าวดังนี้แล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณ แล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์
สาธุ
ผมขอเสนอลิ้งค์ของพระสูตรในกระทู้นี้ครับ
อนาถปณฑิกสูตร
อนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาครับ
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 502
๕. รามเณยยกสูตร
[๙๒๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า อารามอันวิจิตร ป่าอันวิจิตร สระโบกขรณีที่สร้างอย่างดี ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ อันแบ่งออก ๑๖ ครั้ง แห่งภูมิสถานอันรื่นรมย์ของมนุษย์ พระอรหันต์ทั้งหลายอยู่ในที่ใดเป็นบ้านหรือป่าก็ตาม เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนก็ตาม ที่นั้นเป็นภูมิสถานอันน่ารินรมย์
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ