ฟังข่าวเครื่องบินตก เมื่อวันที่ ๑๖ ก.ย ๕๐ แล้ว ก็ได้แต่สงสาร ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรม! ชีวิตคนเรา เป็นของไม่เที่ยง วันหนึ่งเราจะต้องตายแน่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เหมือนเครื่องบินตกที่ภูเก็ตขนาดเครื่องลงสู่ Run Way แล้ว นึกว่าปลอดภัย ยังเกิดอุบัติเหตุทำให้คนตายมากมาย แสดงว่าทุกคนคงทำกรรมร่วมกันมา เมื่อถึงเวลาจึงมาตายพร้อมกัน มองย้อนนึกถึงตัวเอง ถ้าพบวิบากกรรมแบบนี้ จะครองสติและเตรียมตัวตายทันหรือเปล่า ถ้าไม่ทัน คงตกนรกแน่ๆ เพราะตายด้วยความกลัว
สัตว์ทั้งหลาย มีความตายเป็นธรรมดา ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย มีความตายเป็นที่สุดการตายพร้อมกัน มิได้หมายถึงทำกรรมร่วมกันมาเสมอไป ต่างคนต่างทำก็ตายพร้อมกันได้ ทำกรรมร่วมกันมา ตายต่างเวลากันก็ได้ อนึ่งขณะที่ใกล้จะตายมีความกลัวภัยอันตราย ก็ไม่แน่ว่าต้องเกิดในนรกเสมอไป แล้วแต่กรรมไหนจะนำเกิด ถ้ากรรมดีนำเกิดย่อมเกิดในสุคติภูมิ ถ้าอกุศลกรรมนำเกิด ย่อมเกิดในอบายภูมิ
ท่านอาจารย์ สุจินต์ เคยกล่าวบ่อยๆ ว่า ทำไมเราสงสารเขาช้าจัง (คือเกิดสงสารเขาขณะที่เขาเหล่านั้น กำลังได้รับผลของอกุศลกรรม ที่จริงเราควรเริ่มสงสารเขา ตั้งแต่เห็นเขากำลังกระทำอกุศลกรรมอยู่ เช่นปาณาติบาต ครับ)
การเกิดในภพนึงชาตินึง เป็นผลของกรรมทั้งหลายที่ได้ประมวลมาแล้ว แต่โดยแท้ที่จริง ชีวิตดำรงอยู่ก็เพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้นจริงๆ แต่เพราะการเกิดดับสืบต่อของจิต จึงทำให้ดูเหมือนว่ามีชีวิตยืนยาว เราตายกันอยู่ทุกๆ ขณะจิตที่ดับไป ดับไปแล้ว ไม่กลับมาอีกเลย แต่ก็ไม่เห็นว่าน่ากลัว หรือรู้สึกเบื่อหน่ายเลยใช่มั้ยคะ เพราะยังคิดอยู่ว่ามี ยังไม่หมด ยังไม่พลัดพราก ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมเลย เราจะเวียนเกิดเวียนตายในสังสารวัฏฏ์นี้ไปไม่สิ้นสุด และอาจจะกระทำกรรมหนัก ที่นำมาซึ่งวิบาก อันทุกข์ทรมานแสนสาหัสด้วย เมื่อรู้ว่าชีวิตสั้นแสนสั้นถึงเพียงนี้ ถามตัวเองดูนะคะว่า "วันคืนล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่"
การตายทุกขณะจิตที่ดับไปนั้น ดิฉันก็พอเข้าใจค่ะ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะ การตายของเขาก็คือ การหมดลมหายใจ สำหรับวันคืนที่ล่วงไป เรากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าทางโลกดิฉันก็คงตอบว่า ก็ทำงาน หาเงิน รับผิดชอบครอบครัว ดูแลพ่อแม่ญาติพี่น้อง อะไรต่างๆ นานา ตามการดำเนินในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าทางธรรม ดิฉันจะตอบว่า กำลังสะสมกุศลกรรมทุกอย่าง เท่าที่ทำได้ คือกุศลกรรมบถ ๑๐
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสีย สถานที่ตรวจพิสูจน์ ทางนิติเวช ก็เป็นสถานที่เดียวกันกับ ซึนามิ ตายหมู่ขนาดนี้ อย่าฟังข่าวนะ มันเหมือนตายแล้วตายอีก ข่าวก็ออกอากาศ ตลอดเวลา ถ้าคนเป็นญาติฟัง ก็สะเทือนใจวันละหลายรอบ แต่ตามที่สหายธรรมเรียนพระอภิธรรมมาแล้ว สบายใจเพราะ เมื่อครอบครัวหนึ่ง สูญเสีย อีกครอบครัวกำลังดีใจ ที่ได้สมาชิกที่เกิดใหม่ ภาษิตอินเดียกล่าวไว้ว่า เมื่อเราเกิด ทุกคนหัวเราะ แต่เราร้องไห้จงทำตนเหมือนเมื่อตอนเราตายทุกคนร้องไห้ และเรายิ้มอย่างเป็นสุข
ธนภร ชัยมหาวงศ์ (นวล)
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ความเข้าใจพระธรรม จะเป็นปัจจัยปรุงแต่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ยอมรับว่าปัญญาน้อย ที่ไม่ค่อยสลดด้วยปัญญา และก็ยังประมาทในชีวิต ไม่ค่อยคิดว่า ตัวเองจะต้องตายเช่นกัน เมื่อเจอเหตุการณ์ที่เตือนให้ระลึก แต่พระธรรมที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงจะช่วยทำให้ระลึกได้ ดังขอความในพระไตรปิฎกครับ
เรื่อง เห็นหรือรู้ว่าคนตายคิดอย่างไร ... ... ...
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... ว่าด้วยเทวทูต [เทวทูตสูตร]
เรื่อง ความคิดของพระโพธิสัตว์ เรื่อง ความตาย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 170
ข้อความบางตอนจาก สุขุมาลสูตร
ปุถุชนผู้มีได้สดับ ตัวเองก็มีอันจะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
แต่เห็นคนอื่นตายแล้วอึดอัด ระอา ชิงชัง ลืมตัวเสียทีเดียว ถึงตัวเราเล่า
ก็มีอันละต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ก็แต่ว่าข้อซึ่งเราเองก็เป็นคน
มีอันจะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้อยู่เหมือนกัน เห็นคนอื่นตายแล้ว
จะพึงอึดอัด ระอา ชิงชัง นั่นไม่สมควรแก่เราเลย ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเรา
พิจารณาเห็นอยู่เช่นนี้ ความเมาในชีวิต (ความเป็นอยู่) ได้หายไปหมด
เรื่อง ถ้าจะร้องไห้ เศร้าโศกถึงคนที่ตาย ควรร้องไห้ ถึงคนอื่นที่จะต้องตายด้วยเช่นกัน
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่... ว่าด้วยร้องไห้ถึงคนตาย [มตโรทนชาดก]
เรื่อง คนที่ตาย ไม่ควรเศร้าโศก คนที่ยังอยู่ควรมีเมตตากัน
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่... ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน [อนนุโสจิยชาดก]
ขอเชิญคลิกอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับความตายครับ ขออนุโมทนา
ทุกคนจะต้องตายควรเมตตากัน
ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง
ทำอย่างไรให้แน่นอนเมื่อตายไปจะไม่เกิดในทุคติภูมิ
ใครบ้างที่ไม่กลัวตาย
การพิจารณาความตาย ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ด้วยเหตุนี้ "การฟังพระธรรม" จึงเป็นปัจจัยที่ได้ช่วยให้เรามีความหนักแน่นในเรื่องการให้ผลของ "กรรม" เพราะกรรม มีทางที่จะให้ผลที่วิจิตรจริงๆ บางคนตายอย่างน่าสงสาร บางคนตายอย่างน่าประหลาดใจ บางคนตายอย่างน่าสาสมใจ (ของคนบางคน) บางคนตายไปก็เท่านั้น เราก็ยังเฉยๆ จะเห็นได้ว่า หลังจากที่รูปกระทบทวารต่างๆ และเกิดดับไปแล้วหลายต่อหลายขณะ จิตคิดก็ประติดประต่อกันแนบเนียนจนทำให้เข้าใจเป็นเรื่องราวที่ยาวๆ เสมือนเป็นเรื่องเดียวกัน โดยมีความเป็นตัวตนของ "เรา" ซึ่งเป็นใหญ่จริงๆ ที่เป็นปัจจัยให้ยังคิด โดยส่วนใหญ่ก็เป็น "อกุศล" ที่ปรุงแต่งจิตให้คิดไปต่างๆ นาๆ คิดสงสารบ้าง คิดโกรธบ้าง คิดพอใจบ้าง คิดสงสัยบ้าง มากมายเหลือเกินในเรื่องราวนั้นๆ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ ขณะนี้ สติเกิดระลึกถึงสภาพธรรมะที่ปรากฎให้รู้ได้ต่อหน้า ในขณะนี้ทางทวารต่างๆ ได้ทั่วหรือยัง?
ขออนุโมทนาครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...พระเจ้าวิฑูฑภะถูกน้ำท่วมสวรรคต
จริงค่ะ การฟังธรรมช่วยให้เกิดปัญญา เห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ทุกวันนี้ก็พยายามพิจารณาความตายบ่อยๆ อยากพิจารณาทุกลมหายใจเหมือนกัน แต่ทำไม่ได้
ขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลกรรมค่ะ