ข้อความบางส่วนจากการสนทนาธรรมที่บ้านคุณจักรกฤษณ์ และคุณชฏาพร เจนเจษฏา ๒๘ ธ.ค. ๕๘
= ถ้าไม่ละก็มีแต่เรื่องเอา
ที่ไม่ละ เพราะไม่รู้
= ตั้งแต่เช้า ทุกคนตื่นขึ้นมาก็แสวงหา
แสวงหาอะไร!!! แสวงหาสิ่งที่ประเสริฐหรือไม่ประเสริฐ
= ไม่มีอะไรใหญ่กว่าธรรม ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับให้เห็นเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครยับยั้งโกรธได้ สภาพธรรมเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร
= จะสวดมนต์ข้ามปี พูดคำที่ไม่รู้จักเพื่ออะไร!!! ติดข้องก็ไม่รู้ ไปนั่งทำอะไร!!! จะเข้าใจไหม!!!
= ผู้ตรงเท่านั้นที่จะได้สาระจากพระธรรม ตรงว่าไม่รู้ จึงฟังจากผู้รู้ ฟังเพื่อเข้าใจธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา และไม่หวัง ไม่คำนึงว่าเมื่อไหร่ เพราะธรรมเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้สักอย่าง ฟังไว้ เข้าใจไว้ สะสมความเข้าใจไว้ สะสมความเห็นถูกไว้ เข้าใจทุกคำที่ได้ฟัง เมื่อเข้าใจมากขึ้น มั่นคงขึ้น จะเห็นความเป็นอนัตตามากขึ้น ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา
อนุโมทนาในคุณความดีและกราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
อนุโมทนาคุณจักรกฤษณ์และคุณชฏาพร เจนเจษฏา ที่เปิดบ้านให้ได้สนทนาธรรม ได้สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นเสบียงในการเดินทางไกลในสังสารวัฏฏ์
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
เพราะไม่รู้ จึงอยู่มา ในหล้าโลก เพราะไม่รู้ จึงเศร้าโศก ในสงสาร เพราะไม่รู้ จึงเป็นเรา เขลามานาน เพราะไม่รู้ จึงคบพาล เผาผลาญตน... ที่ไม่ละ เพราะไม่รู้...
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
ถึงรู้..ยังไม่ละโดยเด็ดขาด เพราะต้องเป็นความรู้ในระดับโลกุตตรมรรค
การตัดกิเลส ๓ ระดับ
ขออนุโมทนาคะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ