เคยฟังอาจารย์สุจินต์บรรยาธรรมว่า เมื่อเราตาย สัญญา ร่างกาย ทุกสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเจ้าของก็จะหมดสิ้นไป เกิดชาติใหม่ก็มีร่างกายใหม่ พ่อแม่คนใหม่ เพื่อนใหม่ เราจะจำอะไรไม่ได้เลยในชาติก่อน แต่ทุกคนก็คนได้ยินได้ฟังจากสื่อต่างๆ มาแล้วว่ามีคนสามารถจำเรื่องราวในชาติก่อนๆ ได้อย่างแม่นยำ ในร่างคนใหม่ได้ อยากให้ผู้รู้อธิบายให้หน่อยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ขอเชิญคลิกอ่านที่ ความทรงจำของคนเราในชาติก่อน
พระธรรมคำสอนนั้นละเอียดลึกซึ้ง และมีมากจนสุดที่ใครๆ จะรู้ได้ทั่ว ดังนั้นการศึกษาพระธรรมจึงควรเริ่มต้นที่วัตถุประสงค์ว่า ต้องการศึกษาไปเพื่ออะไร?
หากต้องการศึกษาเพื่อการอวด การประกวด ประกาศนียบัตร หรือใช้แสวงหาทรัพย์ย่อมเป็นวัตถุประสงค์ที่ไม่ถูกต้อง และแทนที่จะเป็นประโยชน์จะกลับกลายเป็นโทษ เพราะฉะนั้น เราควรรู้ว่าวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องในการศึกษาพระธรรม คือ ศึกษาเพื่อความรู้และความเข้าใจ อันจะช่วยให้ละคลายและดับกิเลสในที่สุด
เมื่อเราตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมด้วยความเห็นที่ถูกแล้ว ต่อไปก็ควรศึกษาไปตามลำดับ เพราะความรู้ที่พระผู้มีพระภาคทรงนำมาแสดงนั้น แม้เสมือนทรงคัดสรรเฉพาะพืชที่กินได้อันมีส่วนน้อยจากพืชทั้งหมดที่มีอยู่ในป่าแล้ว แต่พืชที่กินได้นี้ก็ยังเป็นกองมหึมาสำหรับเรา ดังนั้นเราจึงต้องค่อยๆ กินไปทีละอย่าง ทีละคำ ไปตามลำดับ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดโทษต่อร่างกาย
ขอให้คุณผู้แสวงหาค่อยๆ ศึกษาขั้นต้นถึง จิต เจตสิก รูป ว่าคืออะไร มีลักษณะและทำกิจหน้าที่อะไร และศึกษาต่อไปเรื่อยๆ เมื่อศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องจนเข้าใจถึงระดับหนึ่ง เราจะตอบคำถามหลากหลายที่ไม่เคยมีใครอธิบายคำตอบให้เราได้ การค้นพบคำตอบด้วยตัวเอง ยอดเยี่ยมกว่าการให้ผู้อื่นตอบให้ คุณผู้แสวงหาเห็นด้วยไหมครับ
ศึกษาธรรมะ เพื่อให้รู้ความจริงในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตค่ะ
เราไม่รู้ว่าใครมาจากภูมิไหน และจะไปสู่ภูมิไหน ภพชาติในอดีตนั้นไม่อาจที่จะประมาณได้ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ก็ต้องเกิดอยู่ร่ำไป เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์และได้ศึกษาพระธรรมนั้น เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงเป็นสิ่งที่ควรสั่งสมอบรมเจริญให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ครับ
แม้รู้ไปก็ไม่สามารถบรรเทากิเลสหรือละความไม่รู้ที่มีในขณะนี้ครับ หนทางเดียวคือสภาพธรรมที่ในขณะนี้ เริ่มจากการฟังให้เข้าใจครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
* * ขออนุโมทนาค่ะ * *