การได้ฟังพระธรรมเป็นของยาก
โดย papon  4 ต.ค. 2556
หัวข้อหมายเลข 23769

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"การได้ฟังพระธรรมเป็นของยาก" ประโยคนี้มีในพระสูตรบทไหนไหมครับและมีการอุปมาเหมือนการได้เกิดเป็นมนุษย์ที่เหมือนเต่าตาบอดไหมครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 5 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การได้ฟังพระธรรมเป็นของยาก" ประโยคนี้มีในพระสูตรบทไหนไหมครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค๒ ตอน๓ หน้าที่ 323-330

เรื่อง นาคราชชื่อเอรกปัตตะ

กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉ มจฺจาน ชีวิต

กิจฺฉ สทฺธมฺมสฺสวน กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท.

" ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก, ชีวิต ของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก, การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก."

แก้อรรถ

แม้การฟังพระสัทธรรม ก็เป็นการยาก เพราะค่าที่บุคคลผู้แสดงธรรมหาได้ยาก ในกัปแม้มิใช่น้อย. อนึ่ง ถึงการอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ก็เป็นการยากเหมือนกัน คือได้ยากยิ่งนัก เพราะอภินิหารสำเร็จด้วยความพยายามมาก และเพราะการอุบัติขึ้นแห่งท่านผู้มีอภินิหารอันสำเร็จแล้ว เป็นการได้โดยยาก ด้วยพันแห่งโกฏิกัปป์ แม้มิใช่น้อย. "


และมีการอุปมาเหมือนการได้เกิดเป็นมนุษย์ที่เหมือนเต่าตาบอดไหมครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

ทุติยฉิคคฬสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๔

เชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ในเรื่องนี้ได้ที่นี่ ครับ

สุ. ไม่ทราบคุณซีได้ฟังเรื่องของเต่าตาบอดหรือเปล่าคะ

ซี เคยครับ

สุ. ลองบอกหน่อยซิคะเป็นอย่างไร

ซี คือคนที่ตกอยู่ในอบายภูมิแล้ว ที่จะสามารถเกิดเป็นมนุษย์ได้ใหม่ อุปมาเหมือน เต่าตาบอดในมหาสมุทร และทุก ๑๐๐ ปี ก็จะโผล่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง และในมหาสมุทรมี ห่วงๆ หนึ่งที่เต่าจะสอดหัวได้ และมีทั้งลมทางใต้ ทางเหนือ ทางทิศตะวันออก ตะวันตก ที่พัดห่วงนี้ไปมา เมื่อเต่าโผล่หัวมาลอดห่วงนั้น ก็เหมือนกับที่อยู่ในอบายภูมิและจะได้ กลับมาเป็นมนุษย์ได้ใหม่

สุ. อย่างนั้นก็น่าอนุโมทนากุศลของทุกคนที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ ได้เลยว่า เป็นผลของกุศลกรรมอะไร ไม่ใช่รูปาวจรกุศลแน่ เพราะว่าไม่ได้เกิดในพรหม โลก และก็ไม่ใช่อรูปาวจรกุศลแน่ เพราะต้องเกิดในอรูปพรหมภูมิ แต่เรายังเป็นผู้ที่ยังติด ข้องในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสัมผัส ตามความเป็นจริงทุกวันตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่ชาติก่อนจนถึงชาตินี้และชาติต่อไป เพราะเหตุว่าผู้ที่จะไม่มีความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ก็คือพระอนาคามี แต่แม้กระนั้นเราก็ได้เกิดแล้วด้วยกุศลหนึ่ง ซึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นใครทำกุศลในชาติไหน ทำอะไรไว้ ทำให้เกิดเป็นเราวันนี้ และมีโอกาส ได้ฟังพระธรรมด้วย ซึ่งยากกว่าการเกิดเป็นมนุษย์ และไม่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม

เพราะฉะนั้นแม้ว่าเกิดเป็นมนุษย์ ก็ไม่ใช่ว่า มนุษย์ทุกคนจะมีโอกาสได้ฟังพระ ธรรม แต่ว่าเราก็พ้นจากเต่าตาบอด มาถึงยุคที่มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ แล้วอยู่ในยุคสมัย ที่ได้ฟังพระธรรมด้วย

เพราะฉะนั้นก็เป็นยุคสมัยที่จะต้องอบรมต่อไปจนกว่าที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ไม่ ทราบอีกนานเท่าไร บ่วงนั้นก็พัดไปพัดมาอยู่กลางมหาสมุทร แต่ก็ไม่พ้นจากขันติ ความ อดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง ที่จะเป็นผู้ตรงและพิจารณาเหตุผล และสภาพธรรมเป็นจริง ซึ่ง ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ สภาพธรรมเป็นจริงอย่างไร ปัญญาก็จะต้องรู้แจ้งตามความเป็นจริง ของสภาพธรรมอย่างนั้น

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย kinder  วันที่ 5 ต.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 5 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การมีโอกาสไดัฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ต้องเป็นผู้เคยเห็น ประโยชน์ของพระธรรมมาแล้ว มีศรัทธาที่จะฟังที่จะศึกษา ถ้าไม่เห็นประโยชน์ก็ จะไม่ฟังเลย แต่ละคนก็เป็นไปตามการสะสมจริงๆ แม้ในสมัยพุทธกาลเอง ผู้ที่ได้ ฟังพระธรรม ก็มีเป็นส่วนน้อย แล้วในสมัยนี้แล้วจะน้อยสักแค่ไหน หนทางที่จะ ทำให้หลงนั้นมีมากจริงๆ ถ้าไม่อาศัยพระธรรมแล้ว ไม่มีทางที่จะเข้าใจถูกเห็นถูก ได้เลย จึงเป็นผู้ที่สะสมบุญมาแล้วแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นที่จะไดัฟังได้ศึกษา พระธรรม หาฟังได้ยากมาก เพราะบุคคลผู้รู้ความจริงแล้วแสดงความจริง นั้น หายาก เพราะฉะนั้นในยุคนี้สมัยนี้พระธรรมยังดำรงอยู่ ก็เป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้ฟัง ได้ศึกษาสะสมปัญญาต่อไป ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


ความคิดเห็น 4    โดย papon  วันที่ 5 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 5 ต.ค. 2556

ธรรมของพระพุทธเจ้า ที่แสดงไว้ เป็นพระพุทธพจน์ พอผ่านไปสองพันกว่าปี ก็ของปลอมมากขึ้น ทำให้หาฟังของจริงได้ยาก เพราะ ใสความเห็นของตัวเอง ค่ะ