* พระศาสดาตรัสพระพุทธพจน์นี้ เพราะทรงปรารภพระเถระผู้ตั้งอยู่ในธรรม และยังเกื้อกูลอดีตบุตร ภรรยาของท่านให้ตั้งอยู่ในธรรมอีกด้วย (คือได้บรรลุคุณธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์)
* บัณฑิต คือผู้ที่มีปัญญารู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง สามารถดับกิเลสเป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ส่วนกัลยาณปุถุชนเป็นผู้ที่กำลังสะสมอบรมปัญญาและคุณความดีต่างๆ เพื่อเป็นบัณฑิตต่อไป
* บาป คือกิเลสอกุศลทั้งหลาย เป็นสภาพที่เศร้าหมอง ไม่สะอาด ซึ่งมีหลายระดับ
- ตั้งแต่บาปที่มีกำลังมากที่ถึงขั้นเป็นอกุศลกรรมบถ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่น การฆ่า การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม
- บาปที่ไม่ถึงขั้นล่วงเป็นอกุศลกรรมบถ แต่เป็นบาปที่เกิดขึ้นทำให้จิตเป็นอกุศลอยู่เสมอๆ ในชีวิตประจำวัน
- และบาปที่เป็นพืชเชื้อสะสมอยู่ในจิต ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดบาปอกุศลระดับต่างๆ ขึ้น
* ดังนั้นข้อความว่า "บัณฑิตย่อมไม่ทำบาป" จึงมีความละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะหมายถึง "การไม่ทำบาปทั้งปวง" ซึ่งเป็นผลจากการอบรมเจริญปัญญา จนสามารถดับพืชเขื้อของบาปในจิต (อนุสัย) ได้หมดสิ้น เป็นพระอริยบุคคลตามลำดับขั้น
* บัณฑิตเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม จึงไม่ทำบาป เพื่อลาภ ยศ ชื่อเสียงของตน หรือของวงศาคณาญาติ มิตรสหาย ผู้ใด ทั้งสิ้น
* การที่จะเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรมได้ตามลำดับขั้น ก็ต้องเริ่มจากมีความเข้าใจในความเป็นธรรม ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ