[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 231
อุทายิวรรคที่ ๓
๑. โพธนสูตร
เรียกว่าโพชฌงค์เพราะเป็นไปเพื่อตรัสรู้
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 231
อุทายิวรรคที่ ๓
๑. โพธนสูตร
เรียกว่าโพชฌงค์เพราะเป็นไปเพื่อตรัสรู้
[๔๓๕] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า โพชฌงค์ โพชฌงค์ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ จึงเรียกว่า โพชฌงค์. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ที่เรียกว่า โพชฌงค์ เพราะเป็นไปเพื่อตรัสรู้.
[๔๓๖] ดูก่อนภิกษุ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ. ดูก่อนภิกษุ ที่เรียกว่า โพชฌงค์ เพราะเป็นไปเพื่อตรัสรู้ ฉะนี้แล.
จบโพธนสูตรที่ ๑
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 232
อุทายิวรรควรรณนาที่ ๓
อรรถกถาโพธนสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในโพธนสูตรที่ ๑ แห่งอุทายิวรรคที่ ๓
บทว่า กิตฺตาวตา นุ โข ภนฺเต โพชฺฌงฺคาติ วุจฺจนฺติ ความว่า ภิกษุทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า ชื่อว่า องค์อันเป็นความตรัสรู้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไร หนอแล. บทว่า โพธาย สํวตฺตนฺติ ได้แก่ ย่อมเป็นไปเพื่อความตรัสรู้. ในสูตรนี้ ท่านกล่าวโพชฌงค์คลุกเคล้ากันไป.
จบโพธนสูตรที่ ๑