อยากทราบที่มาของอรรถกถาครับ อ่านชาดกหลายๆ เรื่องมีอรรถกถา แต่ในอรรถกถาก็มาจากพุทธพจน์ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน จึงสงสัยว่าที่มาของอรรถกถาต่างจากพุทธพจน์ในพระบาลีอย่างไรครับ
อรรถกถา คือ คำอธิบายเนื้อความ ขยายข้อความพระไตรปิฎกซึ่งในสมัยครั้งพุทธกาลก็มีแล้ว คือส่วนหนึ่งมาจากปกิณณกเทศนาของพระพุทธองค์ ส่วนหนึ่งก็มาจากพระอรหันต์สาวกมีท่านพระสารีบุตรเป็นต้น ท่านอธิบายไว้ แต่ในตอนที่ทำสังคายนา ท่านไม่ได้ยกขึ้นแสดง ส่วนหนึ่งเป็นคำอธิบายจากพระอรรถกถารุ่นต่อมา ซึ่งท่านก็ยกข้อความจากพระสูตรนิกายอื่นๆ มาอธิบาย ดังนั้น โดยเนื้อหาสาระแล้วคำอธิบายจากอรรถกถาไม่ได้ต่างจากพระบาลี (พระพุทธพจน์) แต่เมื่อไม่ได้ยกขึ้นสังคายนาทั้ง ๓ ครั้ง จึงไม่เรียกว่าพระไตรปิฎก ผู้ที่ศึกษาในรุ่นหลังๆ ได้รับประโยชน์จากข้อความในอรรถกถาเป็นอย่างมากครับ
อรรถกถา เป็นคำอธิบายพระไตรปิฎกให้เข้าใจขึ้น เพราะพระไตรปิฎกเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง หากไม่มีคำอธิบายก็ไม่เข้าใจ คิดไปเองทำให้เข้าใจผิด
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอนอบน้อมแด่ท่านพระอรรถกถาจารย์ทั้งหลาย
ขออนุโมทนาครับ
นอกจาก อรรถกถา แล้ว ฎีกา อนุฎีกา คืออะไรครับ
ฎีกา และ อนุฎีกา คือ คัมภีร์รุ่นหลังอรรถกถา ท่านเห็นว่าคนรุ่นหลังๆ ไม่สามารถเข้าใจข้อความในอรรถกถาได้ ท่านจึงอธิบายขยายความจากข้อความในอรรถกถาอีกทีหนึ่ง อนุฎีกา ขยายข้อความจากมหาฎีกาอีกทีหนึ่ง เป็นลำดับชั้นไป
คนในยุคนี้ ต้องอาศัยข้อความจากฎีกา และอนุฎีกาจึงจะพอเข้าใจได้ เช่น คัมภีร์พระอภิธรรมปิฎก คนในยุคนี้อ่านไม่รู้เรื่อง ต้องอาศัยข้อความขยายความจากอรรถกถา หรือพระอภิธรรมมัตถสังคหะ แม้พระอภิธรรมมัตถสังคหะ ก็อ่านไม่รู้เรื่อง ต้องอาศัยอ่านวิภาวินีฎีกา บางท่านอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจต้องอาศัยอนุฎีกาจึงจะช่วยเข้าใจได้ ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ