ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๕๕
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เห็นความจริงว่า ธรรมที่เป็นฝ่ายอกุศล มี และ ธรรมที่เป็นกุศล ก็มี แต่ว่าตราบใดที่ศรัทธายังไม่มั่นคง อกุศลก็ต้องเกิดมาก เช่นทุกวัน ใช่ไหม? เพราะฉะนั้น การได้ฟังอย่างนี้ ก็เป็นการเตือนให้แต่ละคนไม่ประมาทที่จะเห็นโทษของอกุศลและเห็นประโยชน์ของกุศลแม้เพียงเล็กน้อย
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง มีหรือที่กุศลทั้งหลายจะเจริญขึ้น
~ พระธรรม น่าฟัง น่าศึกษา น่าเข้าใจมาก ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ จึงต้องเป็นผู้กล้าที่จะเข้าใจความจริง
~ เราเกิดมาแล้ว จำไหวไหมแต่ละชาติว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ไม่หวาดไม่ไหวเลยในแสนโกฏิกัปป์ เคยเป็นอะไรมา เคยจากโลกนั้นไปในลักษณะใด มีพี่น้องกี่คน เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แล้วก็จะต้องเป็นอย่างนี้ แต่ว่าจำได้เพียงชาตินี้ อีกไม่นานก็ลืม เพราะฉะนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ ที่จำผิดไว้ว่าเป็นเรา ควรที่จะให้น้อยลงหรือว่าควรจะให้หมดไปไหม เพราะความจริง คือ ไม่มีเรา
~ สัจจธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง แต่ว่ายากที่ใครจะรู้ได้ แต่ก็สามารถที่จะรู้ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อมีความเข้าใจว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา อันนี้ก็จะเริ่มเห็นว่า แล้วจะเกิดมาทำไม ก็ไม่ใช่เราสักชาติ หมดไปทุกชาติ จะจำได้ก็เพียงแค่ชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนก็จำไม่ได้ พอถึงชาติหน้าก็เริ่มจำอีกแล้วก็จากไปอีกหมดไปอีก แล้วจะมีอะไร ทุกชาติก็เป็นอย่างนี้
~ ถ้าได้เข้าใจความจริงว่าไม่มีเรา ซึ่งเป็นความจริง ก็จะทำให้ละความที่ยึดถือในความเป็นเราจนกระทั่งเป็นความเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่สิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะกับตัวเองหรือคนอื่น เพราะฉะนั้น พระธรรมเท่านั้นที่จะทำให้เริ่มรู้ความจริงว่า เกิดมาในโลกชั่วคราว แล้วเป็นคนนี้ได้ชาติเดียว จะเป็นคนนี้ที่ดี หรือว่า จะเป็นคนนี้ที่ไม่รู้เหมือนเดิมแล้วก็ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเราไปอีกเพิ่มเติมอีก พอกพูนอีกจนยากที่จะละได้? เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนที่ได้ฟังธรรม ก็จะรู้ประโยชน์อย่างยิ่ง ว่า ถ้าไม่รู้ตราบใด ก็ไม่สามารถที่จะละสุขทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ได้
~ ทุกอย่างเกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีก เพราะฉะนั้น จะเป็นเราหรือจะเป็นของใครไม่ได้ ข้อสำคัญ คือ ต้องเกิดอีก ต้องมีคนใหม่ที่มาจากคนนี้ ดีชั่ว อย่างไร ที่ได้สะสมไว้ในชาตินี้ และในชาติก่อนๆ ก็จะติดตามสืบต่อไป เป็นคนต่อไป เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นโทษของความไม่ดี ชาตินี้ก็เป็นคนดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ ด้วยการเข้าใจธรรมขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
~ เมตตาเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? อภัยได้ไหม? เรื่องที่ไม่น่าอภัยมีเยอะ แต่อภัยได้ไหม? แล้วจะอภัยหรือไม่อภัย? ยังดื้อไม่อภัย หรือ รู้ว่าดื้อไปทำไม โทษอยู่ที่ไหน ไม่ใช่อยู่ที่คนที่เราไม่อภัย แต่อยู่ที่ความไม่อภัยของตนเอง
~ ทั้งวันก่อนที่จะได้ฟังพระธรรมและเข้าใจ มีอกุศลตลอดมากมายไม่ใช่แต่เฉพาะชาตินี้ แต่ว่าชาติก่อนๆ ในอดีตมากมายด้วย เพราะฉะนั้น จึงรู้ว่าเราให้เวลากับอกุศลมามากแล้ว เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ให้เวลาที่เป็นกุศลเพิ่มขึ้นดีไหม เป็นประโยชน์ไหม สูงสุดในชีวิตไหม ให้เวลากับกุศลมากขึ้น
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ศรัทธาเป็นสภาพธรรมที่สะอาด ผ่องใส ไม่สกปรก เพราะฉะนั้น สภาพที่สะอาดอยู่ที่ไหน จะมีอะไรสกปรกอยู่ด้วยไม่ได้ เริ่มเข้าใจว่าที่ไหนมีศรัทธาต้องสะอาด
~ มีใครรู้ว่าใครจะตายเมื่อไหร่? ตายเดี๋ยวนี้ได้ไหม? เพราะฉะนั้น ก่อนตายที่ยังมีชีวิตอยู่ มีชีวิตเพื่ออะไร? มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ เมื่อไหร่ที่จะสามารถเป็นประโยชน์ได้ ทำทันที รอไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าใครจะรู้ว่าจะได้ทำหรือไม่ได้ทำ
~ ถ้าเป็นอกุศล ก็ไม่สามารถจะเข้าใจธรรมได้ เดี๋ยวนี้กำลังเป็นธรรม เพราะฉะนั้น อกุศลไม่สามารถที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ กุศลเท่านั้นที่จะรู้ความจริงได้ เพราะฉะนั้น พอเห็นประโยชน์อย่างนี้ กุศลทุกประเภท ถ้าไม่เจริญ ไม่ทำ ไม่คิดถึง แล้วจะเอากุศลมาแต่ไหน
~ กำลังเป็นกุศล สนทนาธรรม ศึกษาธรรม คิดถึงธรรมแล้วมีคนบอกว่า “พักผ่อนบ้าง” หมายความว่า เขาพอใจที่จะให้อกุศลเกิดเยอะๆ เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ชักชวนให้เราพักเวลาของกุศลและไปเพิ่มเวลาของอกุศล เขาเป็นคนที่เข้าใจธรรมหรือเปล่า?
~ ทุกคนมีอกุศลมาก ยืนอยู่ปากเหว จะตกลงไปหรือว่าจะถอยกลับที่จะไม่ตกลงไป? เพราะเหตุว่า ที่มีความเห็นผิดในชาติแล้ว มีหรือที่ชาติต่อไปจะไม่เห็นผิดต่อไปอีก เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างใหญ่หลวงมาก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าใครจะมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ด้วยความเป็นมิตร ก็ให้เขาพ้นจากเหวของความไม่รู้และความเห็นผิด ที่ควรจะได้ศึกษาให้เข้าใจพระธรรม
~ เราจะเป็นคนเห็นแก่ตัวต่อไปทำไม่ดีต่อไป หรือว่า จะทำดีเป็นประโยชน์กับทุกคน? คนดีมีให้เห็นมากมาย ทำไมเราจะทำดีเหมือนเขาไม่ได้ แล้วคนดีจะมีมากขึ้น
~ ชีวิตประจำวันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความเข้าใจธรรมมีแค่ไหน เพราะเหตุว่า ถ้ายังร้ายเหมือนเดิม แล้วประโยชน์ที่ได้ฟังพระธรรมมีบ้างไหม แต่ว่าเคยร้าย แต่พอระลึกถึงพระธรรมเท่านั้น ขณะนั้น ละ แม้แต่คำร้ายๆ ที่จะพูด ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมีหรือไม่ควรจะสะสมอีกต่อไป
~ เกิดมาคนเดียว เห็นคนเดียว ตายคนเดียว ถ้าเราเข้าใจความจริงมั่นคงขึ้น ไม่มีอะไรประเสริฐเท่ากับเข้าใจพระธรรมทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และประโยชน์สูงสุด คือ ช่วยให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้องด้วย
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้นำสิ่งที่เป็นโทษมาให้ใครเลยแม้นิดเดียว เล็กน้อยสักเท่าไหร่ ก็ไม่มี ทรงชี้ให้เห็นความเป็นจริง อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นประโยชน์
~ ทุกชีวิตที่เกิดมาแต่ละภพแต่ละชาติไม่แน่นอนเลย มีการเปลี่ยนแปลง บางครั้งก็เป็นกุศล บางครั้งก็เป็นช่วงเวลาของอกุศล ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะรู้การสะสมของกุศลและอกุศลว่า ในกาลไหนจะเป็นปัจจัยให้อกุศลเกิดมาก และในกาลไหนจะเป็นปัจจัยให้กุศลประเภทใดเกิดมาก เพราะฉะนั้น ก็ไม่ควรประมาทในการเจริญกุศล
~ ถ้าความดีเกิดขึ้น ขณะนั้น ความไม่ดีคืออกุศลก็เกิดไม่ได้ สะสมกุศลไปชั่วขณะเล็กๆ น้อยๆ ที่กุศลเกิด หนทางเดียว ไม่มีทางอื่นเลย โดยเฉพาะเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องว่าไม่ใช่เรา ก็เพิ่มการที่จะฟังธรรมเพื่อที่จะรู้จริงๆ ว่าไม่ใช่เรา เพราะไม่มีคำอื่นที่จะทำให้เห็นว่าไม่ใช่เรา นอกจากคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๕๔
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
การฟังพระธรรม เป็นโอกาสที่ให้กุศลธรรมเกิดขึ้น เราให้โอกาสแก่อกุศลธรรมมานานแล้ว
กราบอนุโมทนาในกุศลค่ะ อาจารย์ คำปั่น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กราบอนุโมทนาค่ะ คุณคำปั่น
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ