สนทนาธรรมที่มูลนิธิ
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
ถอดเทป โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
นิรันด์ ที่ผมกังวลนี้ก็เพราะว่าเนื่องจากผมไม่เข้าใจว่า เหมือนกับคนอื่นทำให้ผมไม่ได้รับสิ่งที่เราต้องการ ในชีวิต
อาจารย์ ใครบรรดาล
นิรันด์ มันเป็นสภาพธรรมที่มีปัจจัย แล้วสิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ผมไม่มีความเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ จึงเป็นทุกข์ ไปกับสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏ
อาจารย์ เพราะว่าจริงๆ แล้วนะคะ ถ้าคุณนิรันด์จะเข้าใจลึกกว่านั้น ขณะเกิดจิตหนึ่งขณะที่เกิดมีใครอยู่ในโลกนั้นหรือเปล่า ไม่มี ขณะกำลังเห็นเดี๋ยวนี้ ขณะที่เห็นเกิดขึ้น มีใครเห็นด้วยในขณะที่เห็นนี้เกิดหรือเปล่า ไม่มี เกิดขึ้นมาหนึ่งขณะเป็นแต่ละบุคคล คนเดียวจริงๆ แต่หลังเห็นแล้วคิดถึงหลายคน เวลาได้ยินแล้วก็คิดถึงหลายคนเป็นเรื่องของหลายคน ซึ่งไม่ได้มีจริงๆ เลย จริงๆ มีสภาพธรรมที่เกิดดับไป อย่างเร็วมาก แต่ความคิดความจำในสีสันวัณณะที่ปรากฏ ความจำเป็นบ้าน ความจำเป็นสังสารวัฎฎ์ ในโลกมนุษย์หรือในสวรรค์ หรือในพรหมโลก เพราะเพียงชั่วคราวที่อยู่มาแล้ว ตั้งแต่เกิดจนถึงเดี๋ยวนี้ไม่เหลือ ชั่วคราวจริงๆ หมดไป หมดไป อยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องกล่าวเพราะว่าไม่เหลืออะไรเลย จะอยู่ตรงไหน ชาติไหน ก็คือไม่เหลือ ยังไงๆ ก็ไม่เหลือ ถึงวันที่จะหมดโดยสิ้นเชิงก็คือจากโลกนี้ไป ไม่เหลืออะไรในโลกนี้ แต่ก็ยังมีกรรมที่จะทำให้มี โลกใหม่ มีชาติหน้า มีความเป็นไปต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดจนกว่า “ญาณจริยา”
การเข้าใจสภาพธรรม จะเริ่มเจริญขึ้นจนสามารถที่จะดับกิเลส พ้นจากสังสารวัฎฎ์ได้ ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่มีจริงๆ ก็คือ การเห็น การได้ยิน ซึ่งเป็นวิบาก ซึ่งเมื่อมีแล้วก็มีอกุศลซึ่งเกิดต่อหรือกุศล แต่ถ้าเป็นกุศลอื่นๆ ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย เพียงเกิดขึ้นสุขไปวันๆ จะเกิดในสวรรค์สุขไปแต่ละวัน ก็เหมือนเดี๋ยวนี้ คือเป็นไป แล้วก็หมดไปๆ ๆ แต่ถ้ามีปัญญาเมื่อไร “ญาณจริยา” สามารถที่ จะรู้ความจริงจึงสามารถที่จะพ้นจากสิ่งที่คุณนิรันด์มี คือความกังวล หรือความทุกข์ ความไม่สงบใจทั้ง หมดได้
นิรันด์ ขอสรุปความเข้าใจที่อาจารย์ได้ให้ความเข้าใจนี้
อาจารย์ เป็นเรื่องของจิตและเจตสิก
นิรันด์ การที่จะเป็นผู้ที่มั่นคงในเรื่องของกรรม ต้องเริ่มต้นจากมีความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรม คือจิตและเจตสิกเริ่มต้นตั้งแต่ปฎิสนธิจิต
อนุโมทนาค่ะ.
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครัีบ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ