[เล่มที่ 79] พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ เล่ม ๓ - หน้าที่ ๔๒๑
อรรถกถา บุคคลผู้ไปตามกระแส เป็นต้น
วินิจฉัย ในคำว่า "อนุโสตคามี" คือ ผู้ไปตามกระแส เป็นต้น
บทว่า "อนุโสตคามี" พึงทราบได้แก่ ปุถุชนผู้ไปตามกระแส คือ วัฏฏะ ผู้จมลงในกระแสคือ วัฏฏะ
บทว่า "ปฏิโสตคามี" คือ ผู้ไปทวนกระแส คำว่า "ปฏิโสตคามี" นี้เป็นชื่อของท่านผู้ไม่ไปตามกระแส แต่ไปทวนกระแส. ข้อว่า "ปาปญฺจ กมฺมํ น กโรติ" ได้แก่ ผู้ไม่ก้าวล่วงการกระทำบาป. ข้อว่า "สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน" ความว่า ครั้นเมื่อกิเลสอันเป็นปริยุฏฐานยังมีอยู่ ย่อมกระทำกรรมอันลามก แม้กับด้วยทุกขโทมนัสที่เกิดขึ้น.
บทว่า "ปริปุณฺณํ" ได้แก่ บรรดาสิกขาทั้ง ๓ ไม่บกพร่องแม้สักอย่าง.
บทว่า "ปริสุทฺธํ" ได้แก่ ไม่มีอุปกิเลส.
บทว่า "พฺรหฺมจริยํ" แปลว่า ประพฤติธรรมอันประเสริฐที่สุด พระโสดาบัน และพระสกทาคามี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยวาระนี้ ถามว่า ก็บุคคลเหล่านี้ ร้องไห้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์หรือ ตอบว่า ถูกแล้ว ท่านเหล่านี้ ชื่อว่าร้องไห้ประพฤติพรหมจรรย์ โดยการร้องไห้ ด้วยอำนาจของกิเลส แม้ภิกษุผู้ปุถุชนสมบูรณ์ด้วยศีล พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงสงเคราะห์เข้าในบทว่า "พฺรหฺมจริยํ" นี้เหมือนกัน.
บทว่า "ิตตฺโต" ได้แก่ ผู้มีการดำรงตัวอยู่ได้เป็นสภาพ ก็พระอนาคามี ชื่อว่า ดำรงตัวอยู่ได้เป็นสภาพ เพราะท่านเป็นผู้มีจิตไม่หวั่นไหว ด้วยกามราคะ และพยาบาท และเป็นผู้ไม่เวียนกลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา
บทว่า "ติณฺโณ" ได้แก่ ผู้ข้ามกระแสแห่งตัณหา.
บทว่า "ปารคโต" ได้แก่ ผู้ถึงฝั่งคือ พระนิพพาน สองบทว่า "ผเล ติฏฺติ" ได้แก่ ยืนอยู่บนบก คือ อรหัตตผลและสมาปัตติผล
บทว่า "เจโตวิมุตฺตึ" ได้แก่ ผลสมาธิ
บทว่า "ปฺาวิมุตฺตึ" ได้แก่ ผลญาณ สองบทว่า "อยํ วุจฺจติ" ความว่า พระขีณาสพ ผู้ข้ามกระแสตัณหาไปแล้ว ถึงฝั่ง คือ พระนิพพานแล้ว ยืนอยู่บนบก คือ อรหัตตผลและสมาปัตติผล ท่านเรียกว่าเป็น "พราหมณ์" ก็พระขีณาสพนี้ชื่อว่าเป็นพราหมณ์ เพราะท่านเป็นผู้มีบาปอันลอยเสียแล้ว
ขออนุโมทนาจ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น