ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สนทนาธรรมที่บ้านคุณทักษพลและคุณจริยา เจียมวิจิตร 11 ส.ค.66
มั่นคงไหมว่ากำลังฟังอะไร!!! ฟังธรรมะ เดี๋ยวนี้มีธรรมไหม!!! เข้าใจขั้นฟังไหม!!! พอไหม!!! อยากฟังเยอะไหม!!! ฟังแล้วสงสัยคำไหนไหม!!! คิดถึงเห็นคืออย่างไร!!! ... เห็นไหมว่าคิดแล้ว!!!!!
นี่คือความละเอียดอย่างยิ่ง เข้าใจเพื่อเห็นความลึกซึ้ง อะไรจะเกิดขึ้น ... เกิดแล้วใช่ไหม!!! คิดอย่างนี้หรือเปล่า!!!!! อะไรเกิดขึ้นก็ต้องเกิดใช่ไหม!!! ... ใช่!! ฟังเรื่องเห็นแล้วคิดอย่างนี้หรือเปล่า!!!
พูดถึงความจริง ... ให้ไตร่ตรองว่าจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า มั่นคง บังคับบัญชาไม่ได้ อะไรจะเกิดมีเหตุให้เกิด เบาสบายไม่ต้องไปจัดการอะไร ... เกิดแล้วไปจัดการอะไร!! กับความห่วงใยมีประโยชน์หรือไม่!!
กว่าจะคิดได้ต้องรู้ความห่างไกลกันมากกว่าชีวิตซึ่งเคยไม่รู้และติดข้อง ที่จะค่อยๆ เห็นประโยชน์ว่าติดข้องเป็นประโยชน์อะไร!! คิดถึงความจริงเดี๋ยวนี้!! ฟังเพื่อเข้าใจ ... ฟังเพื่อมั่นคงว่าเป็นความจริง!!!
ฟังเพื่อเข้าใจสำคัญที่สุด!!! ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ฟังเรื่องสิ่งที่กำลังมีจริงๆ ... เป็นประโยชน์ไหม!!! ฟังให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น เพราะรู้ว่าสิ่งนี้มีผู้ได้ทรงตรัสรู้แล้ว ประจักษ์แจ้งแล้ว ทุกคำของพระองค์ตรัสเพื่อให้คนฟังเริ่มเข้าใจถูกต้องตามลำดับ ด้วยความอดทนเพราะเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาด้วยความอดทนอย่างยิ่ง กว่าจะสามารถเข้าใจความจริงตามที่พระองค์ตรัสว่า ขณะนี้สิ่งที่มีจริงๆ คืออะไร!!!
เชิญคลิกชม
สนทนาธรรมกับ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะอาจารย์ มศพ. วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 (ภาคเช้า)
🟥 YouTube : https://www.youtube.com/live/858WelI-DZw?feature=share
สนทนาธรรมกับ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะอาจารย์ มศพ. วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 (ภาคบ่าย)
🟥 YouTube : https://youtube.com/live/n19iCiuXPA4?feature=share
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลจิตของคุณทักษพลและคุณจริยา เจียมวิจิตร
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
รู้จักพระพุทธเจ้าไหมแค่ 2 คำ ... ธรรมะเป็นอนัตตา
ความเข้าใจมี 3 ระดับ คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ปริยัติ : เข้าใจขั้นฟัง รอบรู้ในความจริงของแต่ละคำที่ได้ฟัง มั่นคงไหมว่ากำลังฟังอะไร!! ฟังคำที่ทรงตรัสรู้จนเป็นความรู้ของตัวเอง ทั้งวันเป็นอกุศลๆ ทั้งวันไม่มีทางเข้าใจคำที่พระองค์ทรงแสดง ไม่สามารถรู้ความจริงทั้งๆ ที่กำลังปรากฏ เห็นเกิดดับแต่ไม่ปรากฏ ยังไม่รู้ความจริง ความไม่รู้เพิ่มขึ้นทุกขณะที่ไม่รู้ จนกว่าปัญญามั่นคงขึ้น รู้ว่าความอดทนระดับไหน อดทนฟัง ฟังไม่รู้เรื่องก็ต้องอดทนฟังว่าจริงไหม ทุกขณะจริงทั้งหมด ละเอียดอย่างยิ่งและไม่กลับมาอีกเลย ธรรมะเกิดทีละหนึ่งก็ยังไม่ประจักษ์ ไม่ใช่เข้าใจเรื่องราวแต่เข้าใจความจริงที่เกิดดับ จนประจักษ์แจ้ง
รู้ความจริงได้มากเท่าไหร่ ขึ้นกับการได้ฟังและไตร่ตรอง
ฟังแล้วอยากรู้ รู้ไหมว่าเพียงอยาก ... ไม่รู้!!!
มั่นคงขั้นฟัง เพราะฉะนั้นค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ไตร่ตรองจนประจักษ์แจ้งสิ่งที่ได้ฟัง!!!
ไม่ต้องทำอะไร ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏโดยไม่เลือก ฟังธรรมะมีจริง ... เป็นความจริงที่มี!!!
เดี๋ยวนี้มีเห็น!! รู้เห็นหรือยัง ... ยัง ... นั่นแหละไม่รู้!!!
เดี๋ยวนี้ที่เห็นมีธาตุรู้เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฏ ถ้าธาตุรู้ไม่ปรากฏ สิ่งที่ปรากฏๆ ไม่ได้
มโนทวารไม่ใช่สำหรับจำ มโนทวาร คือ ทางที่รู้อารมณ์ทางใจ
ปัญจทวาร คือ ทางที่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
หลังทรงตรัสรู้พระพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมะลึกซึ้งยากจะรู้ได้
เดี๋ยวนี้ที่กำลังฟังนี้เองเป็นหนทางแน่นอน ลึกซึ้ง ที่เริ่มจากความเข้าใจตามลำดับขั้น ค่อยๆ คลายความไม่รู้ความจริงในขั้นฟัง จนกว่าจะถึงขณะที่พูดถึง ... คิดถึงอะไรก็ตาม แต่ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เมื่อมีความเข้าใจที่มั่นคง ขณะใดก็ตามที่รู้ตรงลักษณะ จะรู้ความหมายว่าหมายความถึงอะไรที่เป็นหนทาง เพราะเมื่อรู้ตรงสิ่งนั้นจึงจะสามารถเข้าใจสิ่งนั้นได้
ขณะนี้เห็นเกิดดับ ไม่รู้ตรงเห็นแล้วจะรู้การเกิดดับของนิมิตรได้ไหม!!
หนทางที่ฟังเรื่องเห็นค่อยๆ เข้าใจเห็น ลึกซึ้งที่ไม่ใช่ขณะอื่นทั้งสิ้น แต่ขณะที่กำลังเริ่มเข้าใจ ... แม้ในขั้นฟังจึงจะเป็นหนทางที่ค่อยๆ เข้าใจขึ้นตามลำดับที่จะถึงความลึกซึ้งอย่างยิ่งของขณะนี้ที่กำลังเกิดดับ ทุกคำต้องชัดเจน
การฟังแต่ละครั้ง กำลังมีคำที่กล่าวถึงความจริงให้พิจารณาไตร่ตรองให้รู้ว่า ธาตุรู้เดี๋ยวนี้จะรู้ได้ไหม!!! เมื่อปัญญารู้จึงค่อยๆ ละความไม่รู้
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
ในแต่ละขณะมีธาตุรู้และสิ่งที่ถูกรู้
อวิชชาไม่รู้ว่าคิดต่างจากเห็น เข้าใจว่าธาตุรู้เกิดขึ้นต้องรู้ แต่ธาตุที่เกิดแล้วไม่รู้คืออะไร!!!
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม 45 พรรษา ฟังและไตร่ตรองจะสามารถเข้าใจได้ ธาตุรู้คือจิตคิด จิตกำลังคิด เดี๋ยวนี้ก็มี ... อยู่ที่ธาตุรู้!!!
ความเข้าใจของเราระดับไหน ต้องรู้ตามความเป็นจริงว่า รู้หรือไม่รู้ขนาดไหน!!! ไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นธาตุรู้ ... เพียงแต่จำ!!!
ฟังเพื่อเข้าใจว่าขณะคิดคือธาตุรู้ เห็นก็เป็นธาตุรู้ มีธาตุรู้เป็นประธานรู้ในสิ่งที่ปรากฏ รู้จักธาตุรู้หรือยัง ... ยัง ... ต้องศึกษาขณะนี้!!! อย่างไร!! เดี๋ยวนี้กำลังเข้าใจใหม่ ค่อยๆ เข้าใจความจริงว่า เดี๋ยวนี้ไม่รู้หมดเลย
ความไม่รู้มากมายขนาดไหน!! จะรู้ได้เมื่อไหร่!! ขณะนี้มีรู้ รู้เห็นหรือยัง ยังไม่รู้ นั่นแหละที่ไม่รู้!!!
รู้คำแต่ไม่รู้ความหมายจะทำให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏไหม!!!
ประจักษ์แจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ... หนทางอีกยาวไกล ฟังธรรมให้เข้าใจคือหนทางเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง!!!!! ทุกคำต้องชัดเจน
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด เข้าใจสิ่งที่เกิดแล้ว แค่นี้ก็แสนยาก
สิ่งที่เกิดแล้วรู้หรือไม่ เกิดแล้วไม่รู้ ความไม่รู้ละเอียดขึ้นจนสามารถรู้ได้ว่ากำลังพูดถึงสิ่งที่มีทั้งๆ ที่มืดสนิท แต่ความเข้าใจมีหรือเปล่า สว่างอย่างนี้ยังไม่เข้าใจ
ต้องฟังทุกคำ มั่นคงขึ้น ตรงขึ้น ทีละคำ!!!
รู้จริงๆ ทีละหนึ่ง ความจริงของสิ่งที่มีจริงจึงลึกซึ้งอย่างยิ่ง!!!
เห็นเดี๋ยวนี้เมื่อไหร่จะรู้ ไม่ใช่กาลเวลา ขึ้นกับการค่อยๆ เข้าใจขึ้น
พระพุทธเจ้าทรงแสดงแต่ละหนึ่งว่ามีปัจจัยอย่างไรจึงเกิดขึ้นได้ แต่ละคำไม่เปลี่ยนเลย!!! ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ตรงอย่างยิ่ง
ถ้าไม่ตรงไม่รู้จักพระองค์เลย!!!
การบูชาสูงสุดคือบูชาความรู้เหนือบุคคลใดทั้งหมด พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริง อริยสัจจะเปลี่ยนไม่ได้!!!
ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เสมอกันในความเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ฟังไม่รู้จักพระองค์
ฟังเพื่อเข้าใจ รู้เดี๋ยวนี้ตรงตามที่ได้ฟัง
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
อยู่ตรงนี้เอง ใกล้ที่สุด เห็นตรงนี้ตรงตา แต่ไปไกลมาก โอปนยิโก น้อมเข้ามาในตน!!!
ความเข้าใจทีละน้อยค่อยๆ เข้ามาใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องไปทำอะไรที่ไหน อยู่ที่นี่ ... ตรงนี้ ยิ่งเข้าใกล้ความจริง
เข้าใจความจริงเท่าไรเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า!!! รู้ความจริงว่าปัญญามีไหมในสิ่งที่กำลังมี
พระมหากรุณาแค่ไหนให้ทุกคนรู้ความจริงด้วย ถึงอีกไกลแสนไกล ถ้าไม่เริ่มต้นยิ่งไกล
แต่ธรรมเป็นธรรม สะสมมาอย่างไรก็เป็นไปตามการสะสม ค่อยๆ รู้ความจริง
ฟังธรรมแล้วคิดถึงธรรมบ้างไหม ถ้ามีปัจจัยเกิดก็ต้องเกิดให้เห็น ไม่เห็นก็ไม่ได้
เริ่มเห็นคุณของพระธรรมทั้งหมด เห็นประโยชน์ ชีวิตยาวสั้นเท่าไรไม่รู้ แต่ตรงต่อความจริงที่ได้ฟัง
ประโยชน์สูงสุดในชีวิต คือ ความเข้าใจ!!! มีค่ากว่าสิ่งใดทั้งหมดในทุกชาติ
เข้าใจขั้นฟัง (ปริยัติ) ฟังแล้วละ รู้ตรง (ปฏิบัติ) รู้แจ้ง (ปฏิเวธ) น้อม ... เข้าใจเพิ่มขึ้น เพิ่มมากขึ้น ... ทีละน้อย
ละความไม่รู้ ความติดข้อง ไม่มีอะไรขวางกั้นสิ่งที่กำลังปรากฏ
มีธรรมะปรากฏทีละหนึ่งตามกำลังของปัญญา
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
สิ่งที่เป็นภายในที่สุดต้องเป็นธาตุรู้ ... ภายในที่สุด
สิ่งที่ปรากฏๆ ให้เห็น แต่สิ่งที่อยู่ภายในมองไม่เห็น ลึกซึ้งมาก!!!
เคารพด้วยความเข้าใจในพระคุณให้คนเข้าใจ ไม่เข้าใจมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ เริ่มเข้าใจถูกตามลำดับ
ไม่โกรธแต่ไม่รู้ สภาพไม่รู้มี จึงไม่รู้ นามธรรมละเอียดกว่ารูปธรรม
ตราบใดที่ไม่รู้แจ้งจิต ไม่มีทางรู้แจ้งอริยสัจธรรม ยิ่งฟังยิ่งลึกซึ้งของสิ่งที่ปรากฏจนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจธรรมทั้ง 4
มีสิ่งที่มีจริงให้ค่อยๆ รู้ ค่อยๆ เข้าใจ ... หนทางเดียว!!!!!
ถ้าจำไม่มีวันเข้าใจธรรม
มั่นคงไหมว่ากำลังฟังอะไร!!!
พระพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางของปัญญา ... หนทางเข้าใจความจริง
ขอน้อมน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ละความไม่รู้ ความติดข้อง ไม่มีอะไรขวางกั้นสิ่งที่กำลังปรากฏ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
ขอบพระคุณ แบะยินดีในกุศลจิตจองคุณณัฐวรรณ และทุกท่านค่ะ
อนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ