[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 500
๒๙. เรื่องพระเรวตเถระ [๒๙๒]
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 500
๒๙. เรื่องพระเรวตเถระ [๒๙๒]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในบุพพาราม ทรงปรารภพระเรวตเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "โยธ ปุญฺญุจ" เป็นต้น.
พระขีณาสพไม่มีบุญและบาป
เรื่องข้าพเจ้าให้พิสดารแล้ว ในอรรถกถาแห่งพระคาถาว่า "คาเม วา ยทิ วา รญฺเ" เป็นต้นแล้วนั่นแล.
จริงอยู่ ในเรื่องนั้นข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า "ในวันรุ่งขึ้น ภิกษุทั้งหลายสนทนากันว่า น่าอัศจรรย์ สามเณรมีลาภ, น่าอัศจรรย์สามเณรมีบุญ. รูปเดียว (แท้) สร้างเรือนยอด ๕๐๐ หลังเพื่อภิกษุ ๕๐๐ รูปได้."
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ด้วยกถาชื่อนี้" จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย บุญย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา, บาปก็มิได้มี บุญบาปทั้งสองเธอละเสียแล้ว" ดังนี้แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า:-
๒๙. โยธ ปุญฺญฺจ ปาปญฺจ อุโภ สงฺคํ อุปจฺจคา อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
"ผู้ใดล่วงบุญและบาปทั้งสอง และกิเลสเครื่องข้องเสียได้ในโลกนี้, เราเรียกผู้นั้น ซึ่งไม่มีความโศก มีธุลีไปปราศแล้ว ผู้บริสุทธิ์แล้ว ว่าเป็นพราหมณ์."
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 501
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุโภ ความว่า ละบุญและบาปแม้ทั้งสอง
บทว่า สงฺคํ ได้แก่ กิเลสเครื่องข้องอันต่างด้วยราคะเป็นต้น.
บทว่า อุปจฺจคา ได้แก่ ก้าวล่วงแล้ว. อธิบายว่า เราเรียกผู้ซึ่งชื่อว่าไม่มีความโศก เพราะไม่มีความโศกอันมีวัฏฏะเป็นมูล ผู้ชื่อว่ามีธุลีไปปราศแล้ว เพราะไม่มีธุลีคือราคะเป็นต้นในภายใน ผู้ชื่อว่าบริสุทธิ์แล้ว เพราะความเป็นผู้ไม่มีอุปกิเลสนั้นว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระเรวตเถระ จบ.