ปฏิสนธิจิตกับหทยวัตถุนี้เกิดพร้อมกัน ปฏิสนธิจิตก็ต้องอาศัยหทยวัตถุเกิด และหทยวัตถุก็ต้องอาศัยปฏิสนธิจิตจึงจะเกิดขึ้นได้ ต่างก็อาศัยซึ่งกันและกันด้วยอำนาจแห่งอัญญมัญญปัจจัย
จากข้อความข้างบนครับ ถ้าเป็นอรูปภูมิจะมีปฏิสนธิจิตได้อย่างไรครับ ในเมื่อหทยวัตถุไม่สามารถเกิดได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
โดยทั่วไปแล้ว จิตและเจตสิกจะต้องอาศัยที่เกิด คือ มีที่เกิดของจิตและเจตสิก นั่นคือ อาศัยวัตถุ ๖ คือ มี จักขุปสาทรูป โสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป และ หทยรูป ซึ่งสำหรับภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น จะต้องอาศัยที่เกิด คือ รูปที่เป็นหทยรูป แต่ถ้าเป็นบางภพภูมิที่ไม่ใช่ภูมิที่มีขันธ์ ๕ เช่น อรูปพรหม อรูปพรหม คือ บุคคลที่อบรมสมถภาวนา จนถึงได้ฌานที่ ๕ ขึ้นไป และเมื่อฌานไม่เสื่อมก็ไปเกิดในอรูปพหรมภูมิ เป็นอรูปพรหมบุคคล ซึ่งไม่มีรูปเลย มีแต่นามเท่านั้นครับ คือ มีแต่จิตและเจตสิกเท่านั้นที่เกิดขึ้น
อรูปพรหม ไม่มีรูปเกิดขึ้นเลย แต่สามารถเกิดปฏิสนธิได้ โดยไม่ต้องอาศัยที่เกิดที่เป็นรูป คือ หทยรูปครับ ที่ปฏิสนธิจิตเกิดได้ โดยไม่อาศัยที่เกิด คือ หทยรูปได้ เพราะการทำให้ปฏิสนธิจิตเกิด ก็คือ อาศัยการเป็นปัจจัยของกันและกันของจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเองที่ทำให้เกิดขึ้น แม้ไม่มีรูป แต่เพราะมีเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกับจิต เจตสิกนั่นเองปรุงแต่งให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น และ จิตนั่นเองก็เป็นปัจจัยกันและกันกับเจตสิก เป็นปัจจัยให้เจตสิกและปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น สรุปได้ว่า เพราะอาศัยจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเอง ทั้งสองอย่างเป็นปัจจัยกันและกัน (อัญญมัญญปัจจัย) แม้ไม่มีรูปแต่ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้ โดยความเป็นปัจจัยของกันและกันระหว่างจิตและเจตสิก ที่สำคัญที่สุดอรูปพรหมเกิดได้ เพราะมีกรรมเป็นปัจจัยสำคัญ แม้ไม่มีรูป แต่นามคือ จิตและเจตสิกที่เกิดพร้อมกัน ก็สามารถเกิดได้แม้ไม่มีรูป เพราะมีกรรมที่มีกำลังถึงระดับฌานทำกิจปฏิสนธิ ด้วยอำนาจของกรรมเป็นปัจจัยครับ ดังนั้น ในภพภูมิบางภูมิ แม้เพียง จิตและเจตสิกที่อาศัยกันเกิดขึ้น ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้
อัญญมัญญปัจจัย คือ ธรรมที่ช่วยอุปการะ โดยความอุดหนุนกันและกันให้เกิดขึ้นและค้ำจุนกันและกันไว้ เหมือนไม้ค้ำสามอันช่วยค้ำกันและกันเอาไว้ เช่น จิต เจตสิกที่เกิดร่วมกัน อาศัยกันและกันเกิดขึ้น และมหาูภูตรูป ๔ เกิดขึ้น อาศัยกันและกันเกิดขึ้น และในปฏิสนธิขณะ นามและรูปเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน ด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ นามรูปเป็นปัจจัยด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย มุ่งหมายเฉพาะภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ คือ ปฏิสนธิจิตเกิดที่หทยรูปเสมอ ส่วนในอรูปพรหมไม่มีรูป แต่ปฏิสนธิจิตก็เกิดได้ โดยอาศัยจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกันนั่นเอง ทั้งสองอย่างเป็นปัจจัยกันและกัน เป็นอัญญมัญญปัจจัย โดยนัย นามกับนาม คือ จิต เจตสิก แต่ไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัย โดยนาม กับ รูป ครับ
เชิญคลิกฟังเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
ทบทวนปัจจัย - อัญญมัญญปัจจัย
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้ และไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาให้สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปได้ แต่ธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย ทุกขณะที่สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปนั้น เป็นด้วยอำนาจปัจจัยหลายปัจจัย ตามควรแก่สภาพธรรมนั้นๆ แสดงถึงความเป็นจริงของธรรมที่เป็นอนัตตา เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
สภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นสังขารธรรม ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับไปนั้น ต้องเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีสภาพธรรมแม้แต่อย่างเดียวที่เกิดขึ้นลอยๆ โดยปราศจากเหตุปัจจัย จิตและเจตสิกก็เช่นเดียวกัน เป็นสภาพธรรมที่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกัน คือ อาศัยวัตถุรูปเป็นที่เกิดตามสมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เกิดเพราะเหตุปัจจัยหลายอย่าง
สำหรับในภูมิที่มีแต่นามธรรม คือ ในอรูปพรหมภูมิ จิตและเจตสิกอาศัยกันและกันเกิดขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุรูปเป็นที่เกิดเลย
เรื่องภพภูมิอื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปพรหมภูมิ หรือ อรูปพรหมภูมิ เป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ขณะนี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมเหล่านี้ตามความเป็นจริง เพราะจิต เจตสิกและรูปไม่ได้อยู่ในตำรา แต่มีจริงทุกขณะ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษา สะสมปัญญาไปตามลำดับ ธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้ที่ตั้งใจศึกษาเพื่อความเข้าใจจริงๆ เพราะสิ่งที่สามารถรู้ได้ สามารถเข้าใจได้ ก็คือ สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเองครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
อรูปพรหมภูมิ แม้ไม่มีรูป จิตก็เกิดได้ เพราะมโนสัญเจตนาหาร หมายถึง กรรมที่เป็นกุศลขั้นอรูปฌาน นำมาซึ่งปฏิสนธิวิญญาณ คือ การเกิด ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"ในภพภูมิบางภูมิ แม้เพียง จิต และ เจตสิกที่อาศัยกันเกิดขึ้น ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตได้"
"เรื่องภพภูมิอื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปพรหมภูมิ หรือ อรูปพรหมภูมิ เป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ขณะนี้ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมเหล่านี้ ตามความเป็นจริง"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ