คือตอนผมบวชอยู่ ก็คุยกันแบบปกติ ถามไถ่ทุกข์สุข มีอยู่คราวนึง เขาส่งรูปมาให้ดู (เพราะผมบวชได้เดือนกว่า และก็อยู่คนละประเทศ) ผมเลยเผลอพูดออกไปว่า "น่ากอดมาก" ด้วยความเผลอ เคยชินผมกลัวมากเลยครับว่าจะต้องสังฆาทิเสส รบกวนด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องที่ระวังยาก ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย อกุศลก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ที่พึ่งจริงๆ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ที่มีรากฐานมาจากการมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย
จากประเด็นคำถาม ก็น่าพิจารณาว่า การพูดเผลอไปด้วยความเคยชิน อย่างนั้น ไม่ได้อาบัติสังฆาทิเสส ซึ่งจะแตกต่างไปจากขณะที่มีจิตกำหนัด แล้วพูดเกี้ยวหญิงสาวพาดพิงถึงทวารหนัก ทวารเบา หรือพูดเพื่อต้องการจะเสพเมถุนธรรม อย่างหลังนี้ เป็นอาบัติสังฆาทิเสส จะต้องแก้ไขตามพระวินัย ด้วยการอยู่ประพฤติวัตร ที่เป็นการอยู่ปริวาสกรรม อาศัยคณะสงฆ์เป็นหลัก
แต่ถ้าหากว่า ท่านลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ย่อมไม่มีอาบัติติดตัวแต่อย่างใด เพราะคฤหัสถ์ไม่มีอาบัติ ก็ขอให้เป็นคฤหัสถ์ที่ดี ด้วยการกระทำในสิ่งที่ดีงาม พร้อมกับฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจต่อไป ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระวินัยปิฎก ได้ที่นี่ครับ
พูดเกี้ยวหญิง อาบัติสังฆาทิเสส [มหาวิภังค์]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณครับ โล่งใจเลย และขออนุโมทนาครับ
ผมมีข้อสงสัยอย่างนึงครับ ถ้าภิกษุมีความกำหนัดพูดกับหญิงสาวแต่คุยเรื่องงานเรื่องธุระ ไม่ได้พูดจีบกับ เกี้ยวกัน จะต้องอาบัติสังฆาทิเสสมั้ยครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอถามเพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ครับ ขอบคุณครับ
ผมมีข้อสงสัยอย่างนึงครับ ถ้าภิกษุมีความกำหนัดพูดกับหญิงสาวแต่คุยเรื่องงานเรื่องธุระ ไม่ได้พูดจีบกับ เกี้ยวกัน จะต้องอาบัติสังฆาทิเสสมั้ยครับ
พอดีอยากทราบรายละเอียดครับ
เรียนความเห็นที่ 8 ครับ
เพียงคุยทั่วไป ที่เป็นธุระ กับ ผู้หญิง ไม่ต้องอาบัติ สังฆาทิเสส สบายใจได้ ครับ
เรียนความเห็นที่ 8 ครับ
เพียงคุยทั่วไป ที่เป็นธุระ กับ ผู้หญิง ไม่ต้องอาบัติ สังฆาทิเสส สบายใจได้ ครับ
ขอบคุณครับพอดี คิดไปเรื่อยๆ สงสัยเลยยกตัวอย่างขึ้นมาครับ ดูตามพระวินัยนี่จะเน้นที่การกระทำลงไปแล้วนะครับ