เรียนถามท่านผู้รู้ครับ ในเรื่องของเจตสิก โมจตุกะ ที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตทุกดวง ดังนี้ครับ
1.โมจตุกะที่เป็นเจตสิก 4 ดวง มีเวทนาเป็นอุเบกขาเหมือนโมหมูลจิตหรือไม่ครับ
2.โลภมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโสมนัส จะมีโมจตุกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร
3.โทสมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโทมนัส จะมีโมจตุกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร
ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจด้วยครับ
โมจตุกเจตสิก
โม (โมหเจตสิก) + จตุกฺก (หมวด ๔) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต)
เจตสิกที่เป็นหมวด ๔ ของโมหะ หมายถึง อกุศลเจตสิก ๔ ดวง คือ ...
๑. โมหะ ๒. อหิริกะ ๓. อโนตตัปปะ ๔. อุทธัจจะ
อกุศลจิตทั้ง ๑๒ ดวง จะต้องมีอกุศลเจตสิก ๔ ดวงนี้เกิดร่วมด้วยแน่นอน ฉะนั้นอกุศลเจตสิกทั้ง ๔ ดวงนี้ จึงมีชื่อว่า “สัพพอกุศลสาธารณเจตสิก “ คือ เป็นสาธารณะแก่อกุศลจิตทุกดวง
โมหเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่รู้และปิดบังความจริงของสภาพธรรม ขณะที่หลงลืมสิ่งหนึ่ง เป็นอาการของโมหเจตสิกที่ทำกิจในขณะนั้น อหิริกเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่ละอาย ไม่รังเกียจต่อบาปอกุศลทุจริตมีอาการเหมือนสุกรที่ไม่รังเกียจต่ออาจมที่เป็นสิ่งปฏิกูล อโนตตัปปเจตสิก เป็นสภาพที่ไม่เกรงกลัวต่อบาปอกุศลทุจริต มีอาการเหมือนแมลงเม่าที่ไม่เกรงกลัวต่อไฟ จึงบินเข้าไปสู่กองไฟ อุทธัจจเจตสิก เป็นสภาพที่ฟุ้งซ่านซัดส่ายในอารมณ์ ทำจิตให้ไม่สงบมีอาการเหมือนการโยนก้อนหินลงในกองขี้เถ้า ทำให้ขึ้เถ้าฟุ้งขึ้น
1.โมจุตกะ ที่เป็นเจตสิก 4 ดวง มีเวทนาเป็นอุเบกขาเหมือนโมหมูลจิตหรือไม่ครับ
» โมจตุกะ เจตสิก 4 ประเภท เกิดกับเวทนาประเภทใดก็ได้ ไม่จำกัดเฉพาะอุเบกขาเวทนา ครับ
2.โลภมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโสมนัส จะมีโมจุตกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร
» มีครับ
3.โทสมูลจิตที่มีเวทนาเป็นโทมนัส จะมีโมจุตกะ เกิดร่วม ได้อย่างไร
» มีครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรม กล่าวคือ จิต และเจตสิก นั้น จะเกิดร่วมกัน และเจตสิกที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้นก็ตามควรแก่จิตขณะนั้นๆ ด้วย และที่น่าพิจารณา คือ อกุศลเจตสิกประการต่างๆ จะเกิดร่วมกับอกุศลจิตเท่านั้น เกิดร่วมกับจิตชาติอื่นไม่ได้เลย อกุศลเจตสิกที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตแต่ละประเภทนั้น ก็ตามความเป็นไปของอกุศลจิตประเภทนั้นๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นอกุศลจิตประเภทใด จะไม่ปราศจาก โมหะ (ความหลง ความไม่รู้) อหิริกะ (ความไม่ละอายอกุศล) อโนตตัปปะ (ความไม่เกรงกลัวต่ออกุศล) และ อุทธัจจะ (ความไม่สงบ) เลย นี้คือความเป็นจริง ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น อกุศลประเภทที่มีโลภะเกิดร่วมด้วย เวทนา จะเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดใน ๒ อย่าง คือ โสมนัส หรือ อุเบกขา แต่ถ้าเป็นอกุศลประเภทที่มีโทสะเกิดร่วมด้วยแล้ว เวทนาต้องเป็นอย่างเดียวเท่านั้นคือ โทมนัสเวทนา ความรู้สึกไม่สบายใจ
ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจความจริง ตามความเป็นจริง แม้ อกุศล ที่เกิดขึ้นเป็นไป นั้น เป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อแยกย่อยเป็นแต่ละขณะๆ ของชีวิตแล้ว หาความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนไม่ได้เลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณในการชี้แนะครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
พยายามจะทำความเข้าใจแต่ก็ยากสำหรับผม ขอบคุณ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ