สิ่งที่ตามหา.......
โดย oom  3 ธ.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 14466

ดิฉันสนใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก จากการเรียนหนังสือหน้าที่-ศีลธรรมและ คุณพ่อ คุณแม่ จะพาไปวัดตลอด ชอบอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธศาสนาทุกประเภท จนถึงการปฏิบัติในสำนักต่างๆ มากมาย ไปในแต่ละครั้งดิฉันต้องการฟังธรรมจากพระปฏิบัติดีทั้งหลายมากกว่า ส่วนใหญ่ก็จะเน้นให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ซึ่งดิฉันเองไม่ชอบเลย ชอบฟังธรรมมากกว่า แต่ก็ไปเกือบทุกที่ ที่มีการสอนปฏิบัติ เพราะยังไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ จนมาฟังธรรมที่มูลนิธิฯ ได้พบท่านอาจารย์สุจินต์ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ดิฉันมีความเข้าใจธรรมะมากขึ้น เพราะท่านอาจารย์สามารถถ่ายทอดธรรมะ ได้ละเอียดลึกซึ้งมาก ดิฉันคิดว่าชีวิตนี้ เกิดมาคุ้มแล้วที่ได้พบท่านอาจารย์สุจินต์ ต้องขอกราบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และอาจารย์ทุกท่านมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจให้กับดิฉันและทุกๆ คน นี่คือสิ่งที่ตามหามาเกือบค่อนชีวิตคือ พระพุทธเจ้าสอนอะไร



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย วิริยะ  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

สิ่งที่ตามหา ....

หาเจอแล้วก็อย่าประมาทนะคะ -o_o-


ความคิดเห็น 4    โดย ups  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย oom  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

ตอบคุณความเห็นที่ 3 คงแล้วแต่เหตุปัจจัย ก็คิดว่าตัวเองไม่ประมาทนะคะ เพราะในวันหยุดก็จะพยายาม เคลียร์ตัวเองให้ว่าง เพื่อจะได้มาฟังธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ที่มูลนิธิฯ นอกจาก ติดธุระ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็งดไป เพราะคิดว่าสิ่งที่เราตามหามานานแล้ว ก็ พบแล้ว คือท่านอาจารย์สุจินต์นี่เอง ดิฉันจะไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เพราะไม่ เคยมีอาจารย์ท่านใดสอนธรรมะได้ละเอียดมากมายขนาดนี้ ที่ได้ฟังมาก็สอนให้ทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนา ก็ได้แต่ทำตาม แต่ไม่เข้าใจ ดิฉันคิดว่า ดิฉันโชคดีมากๆ ๆ ๆ ที่ ได้พบกัลยาณมิตรที่แท้จริง คือ ท่านอาจารย์สุจินต์ ต้องขอกราบอนุโมทนากับท่าน อาจารย์ที่ได้ถ่ายทอดธรรมะอันเป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกๆ คน


ความคิดเห็น 6    โดย อภิรดี  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

นี้.... คือสิ่งที่ตามหา

นี้.... คือสิ่งที่รอคอยมาตลอดชีวิต

นี้.... คือสิ่งที่รอการพิสูจน์ด้วยความอดทนและอดทนเท่านั้น

นี้.... คือไม่เปลี่ยน

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ที่พึ่งที่ระลึก  วันที่ 4 ธ.ค. 2552

ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์

[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 55

ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์

[๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ทรงสวดพระปาติโมกข์ในที่ประชุมพระภิกษุสงฆ์ดังนี้- ขันติคือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าทั้ง หลายตรัสว่า พระนิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง ผู้ทำร้ายผู้อื่น ผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ไม่ชื่อว่าเป็น สมณะเลย. การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อมการทำจิต ของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย. การไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ ความสำรวมใน พระปาติโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑ ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑ การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑ หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 8    โดย คุณ  วันที่ 5 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 5 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย Yongyod  วันที่ 7 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย oom  วันที่ 8 ธ.ค. 2552

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค 52 ได้ไปฟังธรรมที่รพ.พระมงกุฎ ทำให้เข้าใจคำว่า รสพระธรรม ดิฉันซาบซึ้งในรสพระธรรมจริงๆ เพราะท่านอาจารย์สุจินต์และท่านอาจารย์อื่นๆ บรรยายธรรมได้ดีมากๆ ๆ ๆ ดิฉันไม่เคยได้พังที่ไหนละเอียดเท่านี้เลย ยิ่งฟังยิ่ง ทำให้เข้าใจเพิ่มขึ้นๆ เหมือนที่อาจารย์พูดเลย รสพระธรรมทำให้จิตใจเรา เยือกเย็น สงบดี นี่คือประโยชน์ที่ได้จากการฟังธรรมค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย hadezz  วันที่ 21 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย chatchai.k  วันที่ 26 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ