อยากทราบพระสูตรที่เกี่ยวข้องกับ กุกกุจจะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 749
อธิบายอุทธัจจกุกกุจจะ
เมื่อใจไม่สงบ อุทธัจจกุกกุจจะย่อมเกิดขึ้นได้ โดยการไม่ได้กระทำไว้ในใจโดยแยบคาย (ไม่มีโยนิโสมนสิการ) . อาการที่จิตไม่สงบชื่อว่า อวูปสมะ. โดยอรรถ คำว่า อวูปสมะนั้น คืออุทธัจจกุกกุจจะนั่นเอง. เมื่อพระโยคาวจร ยังอโยนิโสมนสิการให้เป็นไปในอวูปสมะนั้นมากครั้งเข้า อุทธัจจกุกกุจจะย่อมเกิดขึ้น.
ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ความไม่สงบใจ การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย และการทำให้มากครั้งเข้า ในความไม่สงบใจนั้น นี้เป็นอาหาร (ปัจจัย) เพื่อให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นบ้าง เพื่อความไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นไปแห่งอุทธัจจ-
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 750
กุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วบ้าง.
ก็การละอุทธัจจกุกกุจจะนั้น มีได้ด้วยโยนิโสมนสิการในเพราะจิตสงบ กล่าวคือสมาธิ. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ความสงบใจ การมนสิการโดยแยบคาย และการกระทำมากครั้ง ในความสงบใจนั้น นี้เป็นอาหาร (ปัจจัย) เพื่อไม่ให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นบ้าง เพื่อละอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วบ้าง.
ละอุทธัจจกุกกุจจะด้วยธรรม ๖ ประการ
อีกอย่างหนึ่ง ธรรมทั้ง ๖ อย่าง ย่อมเป็นไปเพื่อละอุทธจัจกุกกุจจะ คือ ความเป็นพหูสูต ๑ ความเป็นผู้สอบถาม ๑ ความเป็นผู้รู้ปกติในพระวินัย ๑ การคบหาคนเจริญแล้ว ๑ ความเป็นผู้มีกัลยาณมิตร ๑ การกล่าวถ้อยคำที่เป็นสัปปายะ ๑.
อธิบายว่า เธอแม้เรียนนิกาย ๑ บ้าง ๒ นิกายบ้าง ๓ นิกายบ้าง ๔ นิกายบ้าง ๕ นิกายบ้าง ทั้งโดยพระบาลีทั้งโดยอรรถกถา ย่อมละอุทธัจจกุกกุจจะได้. เธอผู้มากไปด้วยการสอบถามซึ่งที่เป็นกัปปิยะและอกัปปยยะก็ดี ผู้รู้ความเป็นปกติในวินัยบัญญัติ เพราะความเป็นผู้เป็นไปในอำนาจวินัยที่ตนช่ำชองแล้วก็ดี เข้าไปหาท่านผู้เจริญ คือพระเถระผู้ใหญ่ก็ดี คบหาสมาคมกับกัลยาณมิตรผู้ทรงวินัย เช่น พระอุบาลีเถระก็ดี ย่อมละอุทธัจจกุกกุจจะได้.
ในอิริยาบถทั้งหลาย มีการยืนและการนั่งเป็นต้น เธอย่อมละได้ด้วยการกล่าวถ้อยคำที่เป็นสัปปายะเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นกัปปิยะและอกัปปิยะ.
ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ธรรม ๖ อย่างย่อมเป็นไปเพื่อละอุทธัจจกุกกุจจะ. เธอย่อมรู้ว่า๑ บรรดาอุทธัจจกุกกุจจะที่ละได้แล้ว ด้วยธรรม ๖ อย่างเหล่านี้ อุทธัจจะจะไม่เกิดขึ้นต่อไป เพราะอรหัตตมรรค กุกกุจจะไม่มีการเกิดขึ้นต่อไป ด้วยอนาคามิมรรค
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
อธิบาย อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์
อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ เป็นไฉน? - บ้านธัมมะ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่เกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ ที่เป็นกุกกุจจะ นั้น ขณะนั้น ถูกกางกั้นด้วยอกุศลธรรม ไม่ปล่อยให้จิตเกิดขึ้นเป็นกุศลได้เลย แสดงถึงความเป็นจริงของธรรมที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างอกุศล กับ กุศล ขณะที่เป็นอกุศล เป็นขณะหนึ่ง ขณะที่เป็นกุศล ก็เป็นอีกขณะหนึ่ง ไม่ปะปนกัน
ในชีวิตประจำวันสำหรับที่ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ยากที่พ้นไปจากการถูกกลุ้มรุมด้วยอกุศลธรรมประการต่างๆ แต่ก็ยังพอมีขณะที่สงบระงับอกุศลได้บ้าง ก็ในขณะที่จิตเป็นกุศล นั้นเอง จนกว่าจะดับอกุศลแต่ละอย่างแต่ละประการด้วยอริยมรรค ตามลำดับขั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา อันเป็นรากฐานสำคัญจะนำไปสู่การระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ทั้งหมดนั้น ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วเท่านั้น จะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลยทีเดียว ครับ
อุทธัจจะและกุกกุจจะ [สัมปันนสูตร]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กุกกุจจะ เป็นความรำคาญ เดือดร้อนใจ ในกุศลทืี่ยังไม่ทำ และ อกุศลที่ทำแล้ว ค่ะ