ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
เวลาใส่บาตรในตอนเช้า ปัจจุบันจะเห็นคนใส่บาตรพระสงฆ์ด้วยหนังสือพิมพ์ด้วยถือว่าสมควรหรือไม่ค่ะ และทุกวันจะมีพระสงฆ์รูปหนึ่งซื้อหนังสือพิมพ์ทุกเช้า ไม่ทราบว่าเป็นการผิดวินัยไหมค่ะ
การใส่บาตรมีข้อกำหนดไหมว่าอะไรควรถวายหรือไม่ ช่วยกรุณาให้ความชัดเจนด้วยค่ะ
ด้วยความขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
การใส่บาตรพระสงฆ์ด้วยหนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ เพราะหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องทางโลก เมื่ออ่านแล้วทำให้อกุศลธรรมเจริญ ดังนั้น พระภิกษุอ่านหนังสือพิมพ์และซื้อหนังสือพิมพ์ ผิดพระวินัยบัญญัติ สำหรับสิ่งของที่ใส่บาตร ควรเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานเท่านั้น สิ่งอื่นที่ไม่ควรแก่บรรพชิต เช่น เงิน หนังสือพิมพ์ เป็นต้นไม่ควรใส่ครับ
ถ้าใส่บาตรพระสงฆ์ แทนที่จะถวายหนังสือพิมพ์ ก็ถวายเทป ซีดี เอ็มพี 3 หนังสือธรรมะ หรือพระไตรปิฏก จะเป็นประโยชน์ต่อท่านมากกว่า และการถวายธรรมะ เป็นปัจจัยให้เรามีปัญญาในอนาคตค่ะ
พระภิกษุมีเครื่องเสียง ไม่ผิดพระวินัยหรือคะ.
พระไม่ผิดหรอกครับ ตามวินัยแล้วใครถวายอะให้ท่านท่านก็รับหมด เป็นสมณะจะเลือกรับไม่ได้หรอกครับ ใส่หินไปท่านก็ต้องรับ แต่ตอนฉันท่านก็เอาออก เพราะพึงรู้ว่าอะไรเป็นคุณเป็นโทษ หนังสือพิมพ์ท่านเห็นว่ามีประโยชน์ อ่านแล้วทราบเรื่องราวต่างๆ ในบ้านเมืองนำไปประยุกต์ในการเทศน์ ท่านก็รับไว้อ่าน ถ้าท่านเห็นว่าไม่เหมาะสมกับเรื่องทางโลก ท่านก็ไม่อ่าน ดูที่เจตนาดีกว่าครับว่าทำไปเพื่ออะไร ดูไปเรื่อยๆ อย่าพึ่งตัดสินถูกผิดอะไรเลย
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ภิกษุสมัยนี้ไม่ได้เคร่งตามที่พระวินัยบัญญัติ อีกต่อไป การกระทำหลายอย่างที่ภิกษุไม่ควรกระทำและต้องไม่ทำด้วย แต่ท่านก็ทำและก็มีข้ออ้างต่างๆ ที่นำมาค้านกับพระวินัยเสมอ พูดไปทำไม่มี กุศลก็ต้องเป็นกุศล อกุศลก็ต้องเป็นอกุศล ของใครก็ของคนนั้น บางครั้งฆราวาสเองก็มีส่วนสนับสนุนให้ท่านต้องประพฤติผิดพระวินัย โดยที่ไม่รู้ เพราะคิดว่าจะเกื้อกูลท่าน แต่ถ้าเราได้ศึกษาพระธรรม หรือพอที่จะเข้าใจในพระวินัยบัญญัติอยู่บ้าง เราก็จะไม่ทำในสิ่งที่จะทำให้ท่านต้องผิดพระวินัย ซึ่งเป็นโทษแก่เพศของท่าน
ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
ตามความคิดเห็นที่ ๑ ที่กล่าวว่า ควรเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานเท่านั้น ย่อมแสดงว่าอาหารแห้งที่สำเร็จรูปก็ไม่สมควรด้วยใช่ไหมค่ะ?
ควรเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมรับประทาน ถ้าเป็นอาหารแห้งที่ต้องไปอุ่นหรือไปทำอีก ไม่สมควร
อาหารแห้งหรืออาหารอื่นๆ ถ้าพระท่านเก็บไว้ ในวันอื่นๆ ก็อาบัติ
ขอเรียนถามเพิ่มเติมค่ะ.
๑ พระภิกษุไม่ควรขัดศรัทธาและกุศลจิตของผู้ถวาย ในกรณีที่เขามีแต่อาหารแห้งเท่านั้นที่จะถวาย.
๒ ท่านนำอาหารแห้งนั้นไปบริจาคคนจน ที่ไม่มีอาหาร (ด้วยกุศลเจตนา)
ข้อความที่กล่าวถูกต้องและสมควรหรือไม่อย่างไร กรุณาแนะนำด้วยค่ะ.
แล้วทำไมตามวัดถึงมีการตักบาตรอาหารแห้งด้วย มีทั้งข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า ถ้าเกิดของที่ใส่บาตรพระท่านเอามารวบรวมไว้ และส่งต่อไปที่วัดยากจนที่ขาดแคลนอาหาร จะอาบัติไหมคะ
ด้วยความขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง และขออนุโมทนากับความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ
ตอบความเห็นที่ ๙ และ ๑๐
๑. ถ้าสิ่งของที่ถวายไม่สมควรรับ พระปฏิเสธเพื่อรักษาพระวินัย ชื่อว่ากระทำถูกต้อง
๒. ไม่ใช่กิจของพระภิกษุที่จะไปแจกของแก่คฤหัสถ์ และเป็นอาบัติเพราะเข้าข่ายการประจบคฤหัสถ์ และชื่อว่าบริโภคปัจจัยที่มีโทษ ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบในกุหนวัตถุคือ การแสวงหาลาภด้วยลาภ ชื่อว่า มีอาชีวไม่บริสุทธิ์
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส เล่ม ๖ - หน้าที่ 556
ก็บุคคลผู้บริโภคปัจจัยอันมีโทษเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้คือ ได้ ได้รับ ประสบ ได้มาซึ่งปัจจัย ด้วยการหลอกลวง ด้วยการพูดเลียบเคียง ด้วยความเป็นหมอดู ด้วยความเป็นคนเล่นกล ด้วยการแสวงหาลาภด้วยลาภ ด้วยการให้ไม้จริง ด้วยการให้ไม้ไผ่ ด้วยการให้ใบไม้ ด้วยการให้ดอกไม้ ด้วยการให้เครื่องอาบน้ำ ด้วยการให้จุรณ ด้วยการให้ดิน ด้วยการให้ไม้สีฟัน ด้วยการให้น้ำบ้วนปาก ด้วยความเป็นผู้ใคร่ให้ปรากฏ ด้วยความพูดเหลวไหลเหมือนแกงถั่ว ด้วยความประจบเขา ฯลฯ
วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 34
[อาชีวปาริสุทธิศีล]
ส่วนการงดเว้นจากมิจฉาชีวะ อันเป็นไปด้วยอำนาจแห่งการละเมิดสิกขาบท ๖ ที่พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติเพราะอาชีพเป็นเหตุเพราะอาชีพเป็นจัวการณ์ และ (ด้วยอำนาจ) แห่งบาปธรรมทั้งหลายมีอย่างนี้คือ "การล่อลวง (กุหนา) การป้อยอ (ลปนา) การทำใบ้ (เนมิตฺติกา) การบีบบังคับ (นิปฺเปสิกตา) การแสวงหาลาภด้วยลาภ (ลาเภน ลาภํ นิชิคึสนตา) " ดังนี้เป็นต้น ศีลนี้ชื่อว่าอาชีวปาริสุทธิศีล.
เรื่องพระก้าวล่วงพระวินัย จะเป็นโดยทราบหรือไม่ทราบวินัยบัญญัติ ก็จะเป็นโทษเป็นอาบัติต่อตัวพระเอง น่าสงสารพระมากกว่าฆราวาส เพราะพระต้องได้รับผลของการย่ำยีพระวินัย (ตายแล้วตกนรก) แต่ฆราวาสที่ไม่ทราบเรื่องวินัยบัญญัติ ก็ทำไปเพราะหวังดี เช่นการถวายเงิน หรือถวายโทรทัศน์-หนังสือพิมพ์ ถ้าจะเป็นกุศลก็คงเป็นกุศลเพียงเล็กน้อยและไม่ประกอบด้วยปัญญาแน่นอน เป็นเรื่องของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้ที่ศึกษาและเข้าใจพระธรรมจะมีน้อยลงเรื่อยๆ ผู้ที่บวช ส่วนมาก ไม่เข้าใจอัธยาศัยของตัวเอง ไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของการบวช ผู้ไม่รู้พระวินัยบัญญัติทั้งพระและฆราวาส ก็มีมากมายนับไม่ถ้วน (หรือรู้แล้วยังฝืนทำ ก็เท่ากับมีส่วนในการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง) สำหรับท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และรับผิดชอบ ต่อบ้านเมือง ต่อศาสนา (ถ้าท่านเข้าใจพระวินัยบัญญัติ) ท่านเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะจัดการอย่างใดให้ถูกตรงตามพระวินัยที่พุทธองค์ทรงบัญญัติได้ พวกเราเข้าใจพระวินัยบัญญัติบ้างแล้ว ก็อย่าได้นำสิ่งที่ไม่สมควรไปถวายพระเลยนะครับ
สิ่งที่เป็นอาหารที่พระได้รับมาแล้ว ต้องฉันภายในก่อนเที่ยงเท่านั้น เลยเวลาเที่ยงไปแล้วจะฉันก็ไม่ได้ รวมทั้งเก็บไว้ก็ไม่ได้
ยินดีในกุศลจิตค่ะ