[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 162
๒. อายตนวิภังคนิเทศ (บาลีข้อ ๙๗)
วรรณนาสุตตันตภาชนีย์
บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงแสดงสุตตันตภาชนีย์ในอายตนนิเทศอันเป็นลำดับต่อจากขันธวิภังคนิเทศนั้นก่อน จึงตรัสพระบาลีว่า ทฺวาทสายตนานิ จกฺขฺวายตนํ รูปายตนํ (อายตนะ ๑๒ คือ จักขายตนะ รูปายตนะ) เป็นต้น ในอายตนะเหล่านั้น พึงทราบโดยนัยบาลีมุตตกะก่อน.
อฺถลกฺขณตาวตฺถ กมสํเขปวิตฺถารา ตถา ทฏฺพฺพโต เจว วิญฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย
บัณฑิตพึงทราบวินิจฉัยโดยอรรถ ๑ โดยลักษณะ ๑ โดยความมีเพียงเท่านั้น ๑ โดยลำดับ ๑ โดยย่อ ๑ โดยพิสดาร ๑ โดยเป็นธรรมอันบัณฑิตพึงเห็น ๑.
ว่าด้วยวินิจฉัยโดยอรรถ
ในคำวินิจฉัยเหล่านั้น พึงทราบอรรถโดยแปลกกันก่อน.
๑. จกฺขตีติ จกฺขุ (๑) ชื่อว่า จักขุ เพราะอรรถว่า ย่อมเห็น อธิบายว่า ย่อมชอบ คือ ทำรูปให้แจ่มแจ้ง
๒. รูปยตีติ รูปํ ชื่อว่า รูป เพราะอรรถว่า ย่อมให้ปรากฏ อธิบายว่า รูปเมื่อถึงวิการแหงวรรณะ ย่อมแสดงภาวะของตนไปสู่หทัย.
๓. สุณาตีติ โสตํ ชื่อว่า โสต เพราะอรรถว่า ได้ยิน.
๔. สปฺปตีติ สทฺโท ชื่อว่า สัททะ เพราะอรรถว่า ออกไป คือ เปล่งออกไป.
๕. ฆายตีติ ฆานํ ชื่อว่า ฆานะ เพราะอรรถว่า สูดดม.
๖. คนฺธยตีติ คนฺโธ ชื่อว่า คันธะ เพราะอรรถว่า ส่งกลิ่น คือ ย่อมแสดงที่อยู่ของตนให้ปรากฏ.
๗. ชีวิตํ อวหานตีติ ชิวฺหา ชื่อว่า ชิวหา เพราะอรรถว่า นำมาซึ่งชีวิต.
๘. รสนฺติ ตํ สตฺตาติ รโส ชื่อว่า รส เพราะอรรถว่า เป็นที่ยินดี คือ เป็นที่ชอบใจของสัตว์ทั้งหลาย.
๙. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย ชื่อว่า กาย เพราะอรรถว่า เป็นบ่อเกิดของธรรมมีอาสวะอันบัณฑิตเกลียด คำว่า อาโย คือ ที่เกิด.
๑๐. ผุสฺสิยตีติ โผฏฺพฺพํ ชื่อว่า โผฏัพพะ เพราะอรรถว่า อันกายย่อมถูกต้อง.
๑๑. มนุยตีติ มโน ชื่อว่า มนะ เพราะอรรถว่า ย่อมรู้.
๑๒. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยตีติ ธมฺมา ชื่อว่า ธรรม เพราะอรรถว่า ย่อมทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน.
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลกรรมค่ะ