ฟังสนทนาธรรมเมื่อสักครู่ ได้ยินท่านวิทยากรกล่าวถึง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีที่เกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ ท่านคงปิติในกุศลที่ได้สร้างพระวิหารเชตวัน เลยสงสัยค่ะ เพราะเคยได้ฟังว่าผู้ที่จุติจิตเกิด ละความเป็นบุคคลในชาตินี้ จะระลึกไม่ได้เลยว่าตนเองเคยเป็นอะไรหรือเป็นใคร
ขอคำอธิบายให้เกิดความเข้าใจด้วยค่ะ
ขอขอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเกิดเป็นเทวดา เป็นการเกิดแบบผุดขึ้นเป็นตัวทันที เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านย่อมรู้ว่า เคยเกิดเป็นใคร เคยทำอะไรไว้บ้าง อย่างเช่น อนาบิณฑิกเทพบุตร ซึ่งเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต ท่านก็ย่อมรู้อย่างชัดเจนว่า ท่านได้เจริญกุศลอะไรบ้าง และ กุศลใดที่ทำให้เกิดความปลาบปลื้มปีติ นั่นก็คือ การได้ถวายพระวิหารเชตวัน เพื่อเป็นที่พำนักพักอาศัยของหมู่แห่งภิกษุ ที่มาจากทิศต่างๆ และ เป็นที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย จะเห็นได้ว่า การเกิดเป็นเทวดา นั้น ช่วงเวลาระหว่างบุคคลใหม่ กับบุคคลเก่า ต่อเนื่องกันทันที เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น จึงสามารถที่จะระลึกถึงความเป็นไปในชาติก่อนได้ และยิ่งเป็นพระอริยบุคคลแล้ว กำลังของสติปัญญาย่อมมากกว่าผู้ที่ไม่ถึงความเป็นพระอริยบุคคล ครับ
สำหรับชีวิตความเป็นไปของอนาถบิณฑกเทพบุตร ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี สามารถศึกษาเพิ่มเติมจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ ครับ
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 26
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 27
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณ อ.คำปั่น ในการเจริญเมตตาเกื้อกูลในครั้งนี้ค่ะ
กราบ อนุโมทนา ค่ะ