๖. ทุติยชีวกัมพวนสูตร ว่าด้วยสิ่งทั้งปวงปรากฏตามความเป็นจริง
โดย บ้านธัมมะ  12 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 37259

[เล่มที่ 28] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 297

๖. ทุติยชีวกัมพวนสูตร

ว่าด้วยสิ่งทั้งปวงปรากฏตามความเป็นจริง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 28]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 14 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 297

๖. ทุติยชีวกัมพวนสูตร

ว่าด้วยสิ่งทั้งปวงปรากฏตามความเป็นจริง

[๒๕๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ชีวกัมพวัน กรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงหลีกเร้นบำเพ็ญความเพียร เพราะเมื่อภิกษุหลีกเร้นอยู่ สิ่งทั้งปวงย่อมปรากฏตามความเป็นจริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าย่อมปรากฏตามความเป็นจริง คือจักษุย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง รูปย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 14 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 298

จักษุวิญญาณย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง จักษุสัมผัสย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกข์เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง ฯลฯ ใจย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง มโนวิญญาณย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง มโนสัมผัสย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ย่อมปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่เที่ยง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงหลีกเร้นบำเพ็ญความเพียร เพราะเมื่อภิกษุหลีกเร้นอยู่ สิ่งทั้งปวงย่อมปรากฏตามความเป็นจริง.

จบ ทุติยชีวกัมพวนสูตรที่ ๖

อรรถกถาชีวกัมพวนสูตรที่ ๕ - ๖

สูตรที่ ๕ ตรัสสำหรับเหล่าภิกษุผู้ยังบกพร่องด้วยสมาธิ. สูตรที่ ๖ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า กรรมฐานของพวกเธอต้องได้พี่เลี้ยง จึงตรัสสำหรับเหล่าภิกษุผู้ได้ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง และความสงัดกาย แต่ยังบกพร่องด้วยการหลีกเร้น. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โอกฺกายติ ได้แก่ อันเขารู้กันทั่ว คือปรากฏ. ดังนั้น ในสูตรทั้ง ๒ พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัสมรรค ๔ พร้อมด้วยวิปัสสนา.

จบ อรรถกถาชีวกัมพวนสูตรที่ ๕ - ๖