วันนี้เริ่มสนทนาธรรมตั้งแต่ 8:00 น. ฝรั่งดีใจมาก ที่ท่านอาจารย์เริ่มสนทนาเร็ว ดู กระตือรือร้นที่จะฟัง สอบถาม สนทนาธรรมมากกว่าคนไทยอย่างเราเสียอีก เพราะมัว แต่เดินไปชมตรงนั้นตรงนี้ ตามนิสัยดั้งเดิมที่สะสมมา
การสนทนาเริ่มด้วยธาตุ 18 ลูคัสถามละเอียดถึงมโนธาตุ 3 ว่าทำไมจึงเป็นมโนธาตุ ซึ่งรายละเอียด ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องเล่าละเอียด (เดี๋ยวจะรู้ว่ายังไม่เข้าใจ) มีคำถามจากเว็บไซต์ ผู้ศึกษาธรรมจากญี่ปุ่น ถามว่า การเดินทางไกลตั้ง 5,000 ไมล์ จากกรุงเทพไปโปแลนด์ เพื่อมาสนทนาธรรมนั้น ไม่เป็นการผิดธรรมชาติยิ่งกว่าการไปนั่งสมาธิหรือ
ท่านอาจารย์ถามว่า ธรรมชาติของพระภิกษุคืออะไร ธรรมชาติของผู้ครองเรือนคืออะไร และเมื่อมีผู้สนใจศึกษาพระธรรมที่ไม่สามารถมากรุงเทพฯได้ ก็สมควรเดินทางไปสนทนาธรรมด้วย ไม่ใช่หรือ
มีอีกคำถามหนึ่งที่กินใจ ทำให้จำได้ ก็คือ เมื่อศึกษาธรรมแล้วได้ประโยชน์มากมาย มีความสุขขึ้น ชีวิตเรียบง่ายขึ้น ทุกอย่างดูดีหมด ท่านอาจารย์บอกว่า นั่นไม่ใช่วัตถุ-ประสงค์ของการศึกษาพระธรรม ซึ่งควรศึกษาเพื่อเข้าใจว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ที่ได้ประโยชน์จากการศึกษา
เมื่อสนทนาถึง 10:30 น. ก็เตรียมตัวขึ้นแท๊กซีไปทานอาหารโปแลนด์ ในเมืองเก่า ห่างออกไป 3 กม. อยู่เมืองนี้ไปไหนลำบาก เพราะไม่พูดภาษาอังกฤษ แล้วไม่สามารถโบกเรียกแท๊กซีที่ไหนก็ได้ เหมือนอยู่เมืองไทย (ดูเหมือนเล่าแล้ว ขออภัยคนแก่เริ่มหลง) จึงต้องรอพร้อมกันจึงออกเดินทาง
เมื่อถึงเมืองเก่า ได้เดินชมเมืองที่สวยงาม คราวนี้มีไกด์นำทาง ซึ่งก็ไม่รู้อะไรเหมือนเหมือนเรา เพราะพอถามว่า นี่รูปปั้นใคร ก็ไปยืนอ่่านที่ป้าย แต่ก็ยังดีที่อ่านภาษาโปลิชได้ แล้วก็บอกสั้นๆ ว่า เป็นรูปนักบุญคนหนึ่ง
ได้เดินชมสวนสาธารณะที่เก่าแก่มาก (ดูจากต้นไม้) เป็นธรรมชาติสวยงาม มีลำธารน้ำใสไหลเย็น ดูเงียบสงบ ปนเศร้าๆ (อันนี้คิดเอง) เดินผ่านปราสาท พิพิธภัณฑ์ แต่ไม่ได้เข้าไปดู เพราะแต่ละแห่งต้องขึ้นบันไดสูง จึงไปทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารพื้นเมือง เสร็จแล้วก็เดินชมเมืองต่อ บางท่านก็เดินชอปปิ้ง แต่สินค้าก็ไม่น่าสนใจ ดูเชยๆ เก่าๆ เหมือนกันทุกร้าน หรือในเขตเมืองเก่า เขาจะห้ามขายของใหม่
สนทนาธรรมต่อ ตอน 16:00 น. จนถึง 18:00 น. จำได้เพียงว่า ถ้ายังคงเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด นั่นคือยังเป็นตัวตน รับประทานอาหารเย็น ที่คลับริมทะเลสาบ ที่มีคนโปลิชมารับประทานอาหาร เล่นน้ำ เล่นเจ็ตสกี ว่ายน้ำมากมาย
มีอีกคำถามหนึ่งที่กินใจทำให้จำได้ ก็คือ เมื่อศึกษาธรรมแล้วได้ประโยชน์มากมาย มีความสุขขึ้น ชีวิตเรียบง่ายขึ้น ทุกอย่างดูดีหมด ท่านอาจารย์บอกว่า นั่นไม่ใช่วัตถุ ประสงค์ของการศึกษาพระธรรม ซึ่งควรศึกษา เพื่อเข้าใจว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ที่ได้ ประโยชน์จากการศึกษา
... กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดง ที่นำธรรมดีๆ มาฝากค่ะ ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา คุณวันชัย ภู่งาม ที่นำภาพมาลงกระทู้ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนา ... คุณกาญจนา เชื้อทอง ในกุศลเจตนา ที่เกื้อกูลสหายธรรมค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาทุกท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาคะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ