มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๑ - หน้าที่ 81
กถาว่าด้วยการบูชา
[บูชา ๒ อย่าง]
[๕๗] ชื่อว่าบูชามี ๒ อย่าง ด้วยสามารถ อามิสบูชา และปฏิบัติบูชา. บรรดาบูชา ๒ อย่างนั้น การบูชาด้วยสักการะมีดอกไม้ เป็นต้นและด้วยปัจจัย ๔ ชื่อว่า อามิสบูชา, การบูชาด้วยปฏิบัติ ชื่อว่าปฏิบัติบูชา. ส่วนในอรรถกถา ท่านกล่าวว่า "การทำสักการะ เคารพนบนอบและไหว้ ชื่อว่าบูชา." โดยกำหนดบุคคลอย่างสูงสุด พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอริยสาวก ชื่อปูชไนยบุคคล.จริงอยู่ ท่านเหล่านั้น เรียกว่า ปูชไนยบุคคล เพราะทำภาวะแห่งการบูชาที่บุคคลทำในตนแม้เล็กน้อย นำประโยชน์สุขมาให้ตลอดกาลนาน เหตุเป็นทักษิไณยบุคคล.
[๕๘] ก็ชื่อว่า การบูชาในปูชไนยบุคคลมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น แม้เล็กน้อย ก็ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้ตลอดกาลนาน. "ใครๆ ไม่อาจนับบุญของบุคคลผู้บูชาปูชารหบุคคลทั้งหลาย คือพระพุทธเจ้าหรือเหล่าพระสาวกผู้ล่วงธรรมเป็นเหตุให้เนิ่นช้า ข้ามโสกะ และปริเทวะได้แล้ว ว่าบุญนี้มีประมาณเท่านี้. อนึ่ง ใครๆ ไม่อาจนับบุญของบุคคล ผู้บูชา ปูชารหบุคคลเหล่านั้น ผู้คงที่ ดับสนิทแล้ว หาภัยแต่ที่ไหนมิได้ว่า 'บุญนี้มีประมาณเท่านี้.' อนึ่ง บุคคลใดในโลกนี้ พึงครอบครองความ เป็นบุคคลนั้นนั่น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ * แห่ง การบูชานี้เลย.
[แก้อรรถ]
[๖๐] โยชนาว่า "บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปูชารเห ความว่าพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระสาวก อาจารย์ อุปัชฌายะมารดาบิดา และครู เป็นต้น ชื่อว่า ปูชารหบุคคล, ใครๆ ไม่อาจนับบุญของบุคคลผู้บูชาซึ่งปูชารหบุคคลเหล่านั้น ด้วยดอกไม้ ประทีปธูป ของหอม เครื่องประดับ และปัจจัย ๔ เป็นอาทิ และด้วยการกราบไหว้เป็นต้นได้."
สาธุ