พอดีเป็นโรคกระเพาะค่ะ เวลาไปปฎิบัติธรรมทุกครั้งต้องกินข้าวเย็นทุกครั้ง (ทำให้ไม่สามารถรักษาศีล 8 ได้ครบทุกครั้ง) แต่ไปอ่านเจอ คำถามและคำตอบอยู่เวบหนึ่งค่ะ ก็เลยสงสัย ว่าถือศีล 8 (หลังเที่ยงไปแล้ว กินนม กินไมโล ที่มีนมผงผสมอยู่ได้เหรอค่ะ) สงสัยค่ะเพราะที่รู้ๆ มาคือห้ามมีนมผงผสมอยู่ค่ะ
copy มาจากที่อ่านค่ะ
ถาม : ศีลข้อวิกาละโภชะนา ถ้าตัวเองเป็นโรคกระเพาะต้องทำอย่างไร?
ตอบ : ของที่กินแทนข้าวได้มีเป็นร้อยเป็นพัน จำเป็นต้องกินข้าวอย่างเดียวหรือถึงอยู่ได้? จะกินนมก็ได้ โอวัลตินก็ได้ น้ำผึ้งก็ได้ น้ำอ้อยก็ได้ น้ำตาลก็ได้ กินไปสัก ๕ - ๑๐ ถ้วย อิ่มกว่าข้าวอีก
ถาม : กินอย่างนี้แล้วไม่ผิดหรือคะ?
ตอบ : ก็พระยังฉันได้เลย โยมกินจะผิดตรงไหนวะ?
ถาม : หมอบอกว่า ให้เลิกศีลแปดได้แล้ว เพราะเป็นโรคกระเพาะ
ตอบ : ก็บอกหมอไปสิว่า "อาจารย์สอนให้ ตัวตายดีกว่าศีลขาด เพราะฉะนั้น หมอบอกได้ ฉันรับฟังแต่ไม่รับปฏิบัติ"
ถาม : หมอบอกว่าวันธรรมดากินข้าว แต่พอวันพระไม่กินแล้วจะทำให้ปวดท้องค่ะ
ตอบ : เหตุผลเดียวกัน ของที่กินแทนได้มีตั้งเยอะ ของบางอย่าง เช่น น้ำผึ้งนั้นดีต่อสุขภาพร่างกาย คนที่เป็นเบาหวานแล้วอยากของหวาน ถ้ากินน้ำตาลเข้าไปจะเดือดร้อน ให้กินน้ำผึ้งแทน น้ำผึ้งสักหนึ่งช้อนโต๊ะ ละลายน้ำร้อนแก้วหนึ่ง กินลงไปแทน ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้เลย เพราะว่าโมเลกุลของน้ำผึ้งร่างกายไม่ต้องเสียเวลามาย่อยสลาย
ถาม : อานิสงส์ถือศีลห้ากับศีลแปดต่างกันมากไหมคะ?
ตอบ : อานิสงส์ของศีลห้าเต็มที่ก็พระสกทาคามี แต่ถ้าถือศีลแปดได้จะเป็นพื้นฐานของพระอนาคามีเลย ต่างกันมากไหม? ก็เหมือนปริญญาตรีต่างกับปริญญาโท
ถาม : ตั้งใจไว้แน่ว่าวันพระจะถือศีลแปดตลอดไปค่ะ
ตอบ : ทำไปเถอะจ้ะ ถึงเวลาก็ตุนพวกไมโล โอวัลตินเอาไว้ด้วย
สรุปแล้วถ้าจะถือศีล 8 ขณะเป็นโรคกระเพาะ ถ้าไม่กินข้าวมื้อเย็นเลย ดึกๆ น้ำย่อยมันก็กัดกระเพาะอยู่ค่ะ (คนไม่เคยเป็นอาจจะไม่ทราบ) พอเที่ยงคืนก็ปวดท้องอีก อย่างนี้ควรจะถือศีล 8 รึป่าวค่ะ (ให้กินนม หรือโอวัลติน) ก็ไม่อิ่มค่ะ (น้ำย่อยมันไม่มีอะไรจะย่อยมันก็กัดกระเพาะอีก) ช่วยแนะนำให้หน่อยได้มั๊ยค่ะ ว่าควรถือศีล 8หรือศีล 5 ดี (เป็นโรคกระเพาะมาเป็นปีแล้วยังไม่หายสักที) ปฎิบัติธรรมทุกครั้งก็ถือศีล 5 ตลอด (ไม่กล้าไม่กินข้าวเย็นกลัวปวดท้องค่ะ)
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พิจารณาไปทีละประเด็นแล้วกันนะครับ
ประเด็นเรื่อง ศีล 8ทาน นม โอวัลติน ไมโลหลังเที่ยงทานได้ไหม
สำหรับศีล 8 นั้น ในศีล 8 ข้อหนึ่ง คือ การงดเว้นจากการทานอาหารในยามวิกาล คือ เลยเที่ยงไปแล้ว ห้ามทานอาหาร แต่อนุญาตทานน้ำปานะและเภสัชได้เมื่อป่วยครับ ดังนั้น คำถามคือ นม โอวัลตินและไมโล เป็นน้ำปานะและเภสัช คำตอบ คือ ไม่ใช่ครับ จัดอยู่ในอาหาร ดังนั้นการดื่ม นม โอวัลตินและไมโล หลังเวลาเที่ยงวันไปแล้ว สำหรับผู้ที่รักษาศีล 8 และพระภิกษุ ผู้รักษาศีล 8 ศีลขาดครับ ส่วนพระภิกษุต้องอาบัติปาจิตตีย์ ดังนั้นจากคำกล่าวที่ท่านผู้ถาม ยกมาที่ว่า
ถาม : ศีลข้อวิกาละโภชะนา ถ้าตัวเองเป็นโรคกระเพาะต้องทำอย่างไร?
ตอบ : ของที่กินแทนข้าวได้มีเป็นร้อยเป็นพัน จำเป็นต้องกินข้าวอย่างเดียวหรือถึงอยู่ได้? จะกินนมก็ได้ โอวัลตินก็ได้ น้ำผึ้งก็ได้ น้ำอ้อยก็ได้ น้ำตาลก็ได้ กินไปสัก ๕ - ๑๐ ถ้วย อิ่มกว่าข้าวอีก
ถาม : กินอย่างนี้แล้วไม่ผิดหรือคะ?
ตอบ : ก็พระยังฉันได้เลย โยมกินจะผิดตรงไหน?
ความผิดถูกไม่ไ่ด้อยู่ที่เมื่อพระฉํนได้ จะทำให้สิ่งที่ทำนั้นถูกครับ เพราะพระที่ฉันนมโอวัลตินและไมโลก็ผิดด้วย อาจจะรู้อยู่ หรือ ไม่รู้อยู่ก็ผิดครับ เป็นอาบัติ พระก็ผิด ผู้ที่รักษาศีล 8 ก็ผิดด้วยครับ ศีลขาด
จากคำกล่าวที่ว่า
ถาม : อานิสงส์ถือศีลห้ากับศีลแปดต่างกันมากไหมคะ?
ตอบ : อานิสงส์ของศีลห้าเต็มที่ก็พระสกทาคามี แต่ถ้าถือศีลแปดได้จะเป็นพื้นฐานของพระอนาคามีเลย ต่างกันมากไหม? ก็เหมือนปริญญาตรีต่างกับปริญญาโท
ความเป็นพระอริยบุคคล ไม่ใช่หมายความเพียงรักษาศีลได้ เช่น รักษาศีล 5 ได้ก็คือได้อานิสงส์ คือ พระสกทาคามี หรือ รักษาศีล 8 จะเป็นพื้นฐานของพระอนาคามีครับ เพราะความเป็นพระอริยบุคคล ต้องด้วยปัญญาเป็นสำคัญ ดังนั้นที่ถูกต้องคือ เมื่อเป็นพระอริยบุคคลแล้วก็จะรักษาศีล 5 ได้เป็นปกติของท่านโดยไม่ก้าวล่วงอีกเลย และเมื่อเป็นพระอนาคามี ท่านก็จะรักษาศีล 8 เป็นปกติของท่านอีกเช่นกัน จะไม่ก้าวล่วงอีก
ดังนั้นเมื่อปัญญาหรือถึงความเป็นพระอริยบุคคลในขั้นนั้นก็จะรักษาศีลเป็นปกติของท่านเองครับ แต่ปุถุชนแม้จะรักษาศีลได้ แต่ไม่เป็นปกติ แม้ศีล 5 และศีล 8 ก็ยังก้าวล่วงได้เป็นธรรมดาครับ
ประเด็นทานน้ำผึ้ง น้ำตาล หลังเที่ยง
ตามที่ได้กล่าวแล้วครับ หลังเที่ยงทานได้คือ น้ำปานะ และเภสัช เมื่อป่วย ไม่สบาย ดังนั้น เภสัช มี 5 อย่างคือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย 5 อย่างเหล่านี้ หากไม่มีเหตุคือ ป่วย ไม่สบาย อ่อนเพลียมาก เป็นโรค ก็ไม่ควรทานครับ ต้องมีเหตุที่เหมาะสมครับ ส่วนให้ทานน้ำตาล หลังเที่ยง อันนี้ไมไ่ด้ ไม่อยู่ในเภสัช 5 และน้ำปานะครับ
ประเด็นเรื่องการรักษาศีล 8
การรักษาศีล 8 เป็นการขัดเกลากิเลสเพิ่มขึ้นที่มากกว่า ศีล 5 แต่เราก็ต้องรู้ว่า รักษาศีล 8 เพราะอะไร ถ้ารักษาเพราะต้องการบุญ อานิสงส์ นี่ก็เพราะผิด แทนที่จะขัดเกลากับเพิ่มพูนกิเลส เพราะทำด้วยความต้องการ ติดข้อง ก็จะทำให้พยายามรักษาให้ได้
ดังนั้นการรักษาศีล 8 จึงไม่ไ่ด้บังคับ แต่ให้รู้จักตนเองว่ารักษาเพราะอะไร หากจุดประสงค์ผิดก็ไม่ควรรักษาครับ และถ้ายังล่วงศีลเพราะการดื่มนม โอวัลติน ไมโล ก็ไม่ควรรักษาเพราะทำในสิ่งที่ผิดครับ
ส่วนประเด็นเรื่องโรคกระเพาะ หากมีปัญหาสุขภาพมากก็ไม่ควรรักษาครับ เพราะต้องการบุญอันนี้ก็ไม่ใช่ ซึ่งหากมีปัญหาสุขภาพ โรคกระเพาะก็ควรทานยา ก็ได้ หรือ ทานน้ำผึ้ง เมื่อยามป่วย มีปัญหาได้ครับในวันที่รักษาศีล ถ้าต้องการจะรักษาจริงๆ เพราะเป็นเภสัช แต่ไม่ใช่ทานนม โอวัลติน ไมโลครับ
การรักษาศีลที่ถูกต้องจึงต้องเริ่มจากจุดประสงค์ที่ถูกต้องครับ คือ การขัดเกลากิเลส อุบาสก อุบาสิกาก็สามารถรักษาศีล 5 ได้เป็นปกติ และถ้ามีอัธยาศัยในการขัดเกลา ไม่ใช่หวังบุญก็สามารถรักษาศีล 8 ได้ ตามกำลังครับ แต่ไม่ใช่รักษาเพราะหวังผลบุญ หรือ ไม่ใช่ ไม่รักษาเพราะผู้อื่นไม่รักษากันครับ ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จุดประสงค์ของการรักษาศีล ๘ เพื่อประโยชน์แก่การขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็รักษา โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไร ไม่ได้มุ่งที่จะขัดเกลากิเลสเลย อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นผู้มีความตั้งใจว่าจะเป็นผู้รักษาศีล ๘ แล้ว ก็จะต้องน้อมที่จะรักษาด้วย ศีล ๘ ข้อที่ ๖ คือ งดเง้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยงไปแล้ว เพราะการรักษาศีล ๘ จะต้องเป็นผู้งดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยงไปแล้ว รับประทานอาหารไม่ได้เว้นไว้แต่น้ำปานะ แม้แต่น้ำปานะ ก็เป็นเรื่องที่ละเอียด ต้องศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ไม่ใช่ว่าอะไรที่เป็นน้ำๆ เช่น นม โอวัลติน เป็นต้น ก็จะเป็นน้ำปานะทั้งหมด ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ถ้าไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ ก็พึงเป็นผู้รักษาศีล ๕ พร้อมทั้งมีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาตามที่คฤหัสถ์จะพึงกระทำได้ อย่างนี้ ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ดีกว่า ไปกระทำอะไรด้วยความไม่รู้หรือด้วยความเข้าใจผิด ครับ.
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
น้ำตาลทานได้ก่อนเที่ยงครับ หลังเที่ยงทานไม่ได้ ลูกอม ทอฟฟี่ก็เช่นกันครับ ทานได้ก่อนเที่ยง หลังเที่ยงทานไม่ได้ สำหรับผู้รักษาศีล 8 ครับ
ขอบคุณและ ขออนุโมทนาในกศลจิตของทุกท่านครับ
ขออนุญาตเรียนสอบถามจากคำถามที่ว่า
ถาม : อานิสงส์ถือศีลห้ากับศีลแปดต่างกันมากไหมคะ?
ตอบ : อานิสงส์ของศีลห้าเต็มที่ก็พระสกทาคามี แต่ถ้าถือศีลแปดได้จะเป็นพื้นฐานของพระอนาคามีเลย ต่างกันมากไหม? ก็เหมือนปริญญาตรีต่างกับปริญญาโท
ความเข้าใจเช่นนี้ เป็นสีลพรตปรามาส หรือไม่ครับ
เรียนความเห็นที่ 11 ครับ
เป็นได้ครับ ถ้าเข้าใจว่า การเจริญศีลให้ได้ก่อน เช่น รักษาศีล 5 ศีล 8 ให้ได้ก่อนจะถึงความเป็นพระอริยบุคคลครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบน่ะค๊า
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะทราบว่าถือศีล 8 ทานน้ำช๊อคโกแลตได้ คือเอาน้ำร้อนชงผงช๊อคโกแลต คะ เพราะรู้สึกเจ็บท้องเหมือนหิวคือเคยเป็นโรคกระเพาะนิดหน่อยค่ะ ทานได้ใช่ไหมค่ะ มีส่วนผสมครีมเทียมกับเห็ดหลินจือค่ะ รบกวนถามค่ะ
ข้อความบางตอนจาก...
ความเห็นที่ 5
จุดประสงค์ของการรักษาศีล ๘ เพื่อประโยชน์แก่การขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็รักษา โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไร ไม่ได้มุ่งที่จะขัดเกลากิเลสเลย อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง
ศีล ๘ ข้อที่ ๖ คือ งดเง้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยงไปแล้ว เพราะการรักษาศีล ๘ จะต้องเป็นผู้งดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยงไปแล้ว รับประทานอาหารไม่ได้เว้นไว้แต่น้ำปานะ แม้แต่น้ำปานะ ก็เป็นเรื่องที่ละเอียด ต้องศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ไม่ใช่ว่าอะไรที่เป็นน้ำๆ เช่น นม โอวัลติน เป็นต้น ก็จะเป็นน้ำปานะทั้งหมด ไม่ใช่อย่างนั้น ครับ
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)
ขออนุโมทนาครับ