ผมตั้งใจที่จะปฏิบัติศีล5ให้เคร่งครัด แต่ไม่แน่ใจว่าเราสามารถปฏิบัติได้เลย หรือว่าเราต้องไปรับศีลมาจากพระ จึงเรียนถามผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วย ขอขอบคุณมากครับ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ศีลคือเจตนางดเว้นจากบาป มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ศีลคือขณะที่จิตที่เป็นกุศล
ในขณะที่มีเจตนาถือเอาด้วยดีด้วยตั้งใจงดเว้น แม้ยังไม่พบเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่จะ
ต้องงดเว้น ดังที่คุณกล่าวในนัยนี้คือจะต้องไปรับศีลไห ม ก็คือขณะใดที่คุณมีเจตนาที่
จะตั้งใจจะประพฤติในศีล 5 จะทำได้หรือไม่ได้ก็ตามแต่จิตขณะนั้นก็เป็นศีล มีความ
ตั้งใจที่จะงดเว้นอย่ในศีล 5 ส่วนขณะใดที่งดเว้นเฉพาะหน้า แม้ไม่ได้สมาทานศีลไว้
แต่ก็งดเว้นที่จะไม่ฆ่าสัตว์เมื่อพบเหตุการณ์ในขณะนั้นก็ชื่อว่าเป็นศีล เป็นกุศลศีล
เช่นกัน จะเห็นได้ว่า ศีลเกิดที่จิต ขณะใดที่จิตมีเจตนางดเว้นในบาป มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น
ก็เป็นศีลแล้วครับ จึงไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าจะต้องเป็นรูปแบบว่าจะต้องไปรับศีล สำคัญที่จิต ที่
เจตนาในขณะนั้นว่ามีเจตนาอันเป็นไปเพื่อน้อมปฏิบัติในศีล หรือมีเจตนางดเว้นที่จะไม่
ทำบาปในขณะนั้นก็เป็นศีลแล้วครับ ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....
ขออนุญาตกล่าวเสริมหน่อยนะครับ
ผมมีความเห็นว่า ศีล 5 มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการงดเว้น ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่เกิดผล เพราะศีล 5 เป็นเรื่องที่ยาก ในการที่จะวิรัติศีลให้ครบได้ตลอดไป
ดังนั้น จึงควรมีการอาราธนา กับสิ่งที่ผู้นั้นให้ความเคารพสักการะมากๆ เพื่อเอาไว้ยึดเหนี่ยวให้อยู่ในศีล ที่ตนได้ให้สัจจะวาจาไว้
แต่ถ้าหากมีความผิดพลาด คือล่วงละเมิดศีลโดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ (ซึ่งเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง คือมีการหลงลืมสติเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา) ... ถ้าผิดพลาดไปแล้วก็ให้ปล่อยมันไปเพราะแก้ไขไม่ได้แล้ว อย่าไปถือโทษตนเอง จนเอาเป็นอารมณ์ให้ท้อแท้ ...แต่ให้ตั้งสติใหม่ ตั้งมั่นใหม่ให้ยิ่งขึ้นกว่าเดิม ให้พยายามใหม่เรื่อยไป จนกว่าจะถือศีลได้ครบตามที่ตั้งใจไว้ "ไม่ใช่ว่า หมายถึงว่า ให้งดเว้นบ้าง ไม่งดเว้นบ้าง แบบตามใจตนเอง มีสติเมื่อไหร่ค่อยงดเว้น" แบบนี้ใช้ไม่ได้นะครับ เพราะจะถือว่าไม่ได้ถือศีลอะไรเลย ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
อานิสงค็ของศีล มีมากมาย เช่น ฝึกการมีสติตลอดเวลา , มีความตั้งมั่น เข้มงวดตนเอง , ฝึกการข่มใจเพื่อวิรัติศีลเมื่อมีสติเกิดแล้ว , เกิดความตั้งมั่นในสัจจะวาจาของตน , เป็นที่เกิดกุศลจิตหลายประเภท , มีความเมตตาต่อผู้อื่นและสรรพสัตว์ , เป็นบุคคลที่น่าคบหามาก , มีนิสัยอ่อนโยน เห็นใจผู้อื่น , รู้สึกผิดถ้าไปเบียนเบียนผู้อื่น แม้เพียงเล็กน้อย , ฯลฯ
เมื่อไหร่ที่ถือศีล 5 จนเป็นปกติวิสัย คือที่ไม่รู้สึกว่าตนเองอยู่ในกรอบของศีลทั้งๆ ที่ตนเองอยู่ในศึล 5 นั้นแล้ว จึงจะเกิดอานิสงค์เหล่านี้แก่ตนเองนะครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ