พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ หน้า 91
ข้อความตอนหนึ่งจาก...
ธรรมวาทีปัญหาสูตร
(ว่าด้วยปัญหาผู้เป็นธรรมวาที)
[๔๙๙] ปริพาชกชื่อว่าชัมพุขาทกะ ถามท่านพระสารีบุตร ว่า "ดูก่อนท่านพระสารีบุตรใครหนอเป็นธรรมวาทีในโลก ใครหนอเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก ใครหนอเป็นผู้ไปดีแล้วในโลก".
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ท่านผู้ใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นธรรมวาทีในโลก, อนึ่ง ผู้ใดปฏิบัติ เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก, ราคะ โทสะ โมหะ อันท่านผู้ใดละได้แล้ว ถอนรากเสียแล้ว ทำให้เป็นดังตาลยอดด้วน กระทำมิให้มีในภายหลัง ไม่ให้เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ท่านผู้นั้น เป็นผู้ไปดีแล้วในโลก".
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 410
ข้อความบางตอนจาก...
อาชีวกสูตร
ว่าด้วยความดี ๓ อย่าง
[๕๑๒] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ที่วัดโฆสิตาราม กรุงโกสัมพี
ครั้งนั้น คฤหบดีสาวกของอาชีวกผู้หนึ่งเข้าไปหาท่านพระอานนท์ ครั้นเข้าไปถึงแล้วอภิวาทท่านพระอานนท์แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง คฤหบดีนั้นแลนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้วถามท่านพระอานนท์ว่า ท่านพระอานนท์ผู้เจริญเราสองพวก ธรรมของพวกใครเป็นสวากขาตะ (กล่าวดี) พวกใครเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วในโลก พวกใครเป็นผู้ดำเนินดีแล้วในโลก
ท่านคฤหบดี ถ้าเช่นนั้น อาตมาจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ท่านพอใจ
อย่างใด พึงตอบอย่างนั้น ท่านสำคัญข้อนี้ว่ากระไร บุคคลเหล่าใดแสดงธรรม
เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ธรรมของบุคคลเหล่านั้นเป็นสวากขาตะหรือไม่
หรือว่าท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้.
ท่านผู้เจริญ บุคคลเหล่าใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
ธรรมของบุคคลเหล่านั้นเป็นสวากขาตะ (กล่าวดี) ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้.
ท่านสำคัญข้อนี้ว่ากระไร ท่านคฤหบดี บุคคลเหล่าใดปฏิบัติเพื่อ
ละราคะ โทสะ โมหะ บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วในโลกหรือไม่
หรือว่าท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้.
ท่านผู้เจริญ บุคคลเหล่าใดปฏิบัติเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ
บุคคลเหล่านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้วในโลก ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้.
ท่านสำคัญข้อนี้ว่ากระไร ท่านคฤหบดี ราคะ โทสะ โมหะ
บุคคลเหล่าใดละได้แล้ว มีมูลอันขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วนแล้ว
ทำไม่ให้มีในภายหลังแล้ว มีอันไม่เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ดำเนินดีแล้วในโลกหรือไม่ หรือว่าท่านมีความเห็นอย่างไรในข้อนี้.
ท่านผู้เจริญ ราคะ โทสะ โมหะ บุคคลเหล่าใดละได้แล้ว...
บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ดำเนินดีแล้วในโลก ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ในข้อนี้. ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 334
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ การแสดงธรรมแก่ผู้อื่น
ไม่ใช่ทำได้ง่าย ภิกษุเมื่อจะแสดงธรรมแก่ผู้อื่น พึงตั้งธรรม ๕ ประการไว้
ภายใน แล้วจึงแสดงธรรมแก่ผู้อื่น ๕ ประการเป็นไฉน? คือ ภิกษุพึงตั้งใจว่า
เราจักแสดงธรรมไปโดยลำดับ ๑เราจักแสดงอ้างเหตุผล ๑เราจักแสดงธรรมอาศัยความเอ็นดู ๑เราจักเป็นผู้ไม่เพ่งอามิสแสดงธรรม ๑
เราจักไม่แสดงให้กระทบตนและผู้อื่น ๑แล้วจึงแสดงธรรมแก่ผู้อื่น
ดูก่อนอานนท์ การแสดงธรรมแก่ผู้อื่นไม่ใช่ทำได้ง่าย ภิกษุเมื่อจะแสดงธรรม
แก่ผู้อื่น พึงตั้งธรรม ๕ ประการนี้ไว้ในภายใน แล้วจึงแสดงธรรมแก่ผู้อื่น.
ขออนุโมทนาค่ะ