บันทึกสุดท้าย...จาก ผู้หญิงชื่อเพราะ...บุษบงรำไพ #11
โดย pannipa.v  17 ก.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 9870

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น

บันทึกสุดท้าย...จาก บุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์

"เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะไม่รู้ถึงวันจบเมื่อไหร่ แต่จบ...แน่ๆ !!!"

วันที่ 7-8-9-10 มีนาคม 2551 ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์

ประมาณตี 4 มีความรู้สึกเหมือนมีน้ำขึ้นมาที่หน้าอกข้างขวา จับก็เจ็บ จึงคิดว่า ควรไป ร.พ. เริ่มจัดของ พอสายก็ไป ร.พ. โดยโทรศัพท์ไปหา หมอชัช หมอสั่งให้ไปตรวจเลือดกับ หมอสมชาย (เป็นอีกท่านนึ่ง ทำการเรื่องเลือด) ขณะนั่งรอประวัติเจ็บไข้ ก็พอดีพบ คุณแก้ว (ร.พ.) จึงพาไปหา หมอ กศานต์ (แพทย์มะเร็ง) ทันที เพราะ เป็นเพื่อนเก่ากัน กุศลวิบากยังมีช่วยเราอยู่เสมอ เรื่องยาก เป็นง่ายไปหมด สนทนากับหมอๆ บอกปกติดี

ถาม "ทำไมผอมจัง"

หมอบอก "ก็ไม่ทานอะไร จะอ้วนได้ไง?" ให้ทานอาหารมีโปรตีน และให้ยาแก้ปวดมาเตรียมไว้ ที่ต้องรอประวัตินาน เพราะมีผู้สนใจ case ของดิฉัน ดึงเอาประวัติไปศึกษา จึงต้องติดตาม คืนมาก่อน สรุปว่า ก็ไม่ได้เป็นอะไร

วันที่ 11 มีนาคม 2551 อังคาร

นัดคุณแก้ว เพื่อนำของที่ระลึกไปให้ที่ กรมประชาสัมพันธ์ หลังจากนั้น ไปที่ร้านตรวจขนตา แล้วไปแบงค์กรุงเทพ ปิดบัญชีเงิน พร้อมปิดบัญชี กับชีวิตตัวเอง

วันที่ 12-13-14 มีนาคม 2551 พุธ พฤหัส ศุกร์

คุณนฤดี ให้ความเมตตา มาอยู่เป็นเพื่อน โชคดีอีกแล้ว ดูๆ แล้วก็คงทำดีมามากพอสมควร อนุโมทนา คุณนฤดี ทำกุศครั้งนี้

วันที่ 15 มีนาคม 2551 เสาร์

ไม่สบาย ปวดท้อง ทานยา (แก้มะเร็งตับ) แรงไป ต้องหยุด วีระมาหา แล้วไปทำงาน

วันที่ 16 มีนาคม 2551 อาทิตย์

ครั้งแรก ถามคำถามท่านอาจารย์ (เขียนไป) โทร.ถึง คุณอ้อม ขอบคุณที่ฝากรูป และเอนชัวร์มาให้

วันที่ 17 มีนาคม 2551 จันทร์

ท่านอาจารย์ พี่เดือน มาครั้งที่ 2

โทร. ถึง คุณติ๋ว ขอบคุณ

วันที่ 18 มีนาคม 2551 อังคาร

เจาะน้ำจากท้องออก ห้องฉุกเฉิน 1

วันที่ 19 มีนาคม 2551 พุธ

กัปตัน เกื้อกูล โทรหาวีระ จะให้ช่วยอะไรไหม? พอดีเรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ

วันที่ 22-23 มีนาคม 2551

เนื่องจากเป็นช่วงที่ยาหมด dose วันที่ 26 ไปรับยาใหม่ ไม่แน่อาจต้อง ฉีดยาช่วยอีก เพราะต้องสู้กับโรคที่มีกำลังแรง อีกหน่อยคงเขียนไม่ไหว

เขียนเรื่องที่ควรปรับปรุงจะดีกว่า
ในตอนแรก คิดว่า การกล้าที่ไม่กลัวตายนั่นสูงสุดแล้ว จริงๆ ยัง ไม่ใช่ตัวจริง เพราะขณะ จุติจิต เกิด ไม่มีใครทราบ แต่ที่เข้มแข็ง เข้าใจว่า การตายมีจริง ก็ยอดเหมือนกัน แต่สิ่งที่จะต้องมีขันติ คือ การอยู่ ในขณะที่ยังไม่ตายจะคิด จะทำตัวอย่างไร? ตรงนี้สำคัญกว่าแยะ

ถ้าเข้าใจการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ก็สูงสุด แต่เนื่องจาก สติปัญญา ไม่มีมาก จึงต้องอบรมเรื่องที่สามารถทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณค่า มีประโยชน์ ไม่ใช่อยู่เพื่อสร้างอกุศล ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อย่าอยู่ดีกว่ากระมังคะ?

จากที่หยุดยาไป สิ่งที่ปรากฏ คือ เท้ายุบ ไม่บวมแล้ว ส่วนน่องก็ค่อยๆ ยุบลง ก็ดี ทำให้เดินสะดวกขึ้น ไม่ทราบจะกลับมาบวมอีกหรือเปล่า? เพราะมันป็นอนัตตา ช่วงนี้ทานไข่ไก่มาก วันละ 4 ฟอง ผู้สนับสนุนอาหาร คือ อาจารย์ดวงเดือน และ คุณแก้วตา อเนกพุฒิ

"การให้อาหาร เป็นการให้ชีวิต...อนุโมทนา"

วันที 24-25 มีนาคม 2551

พระบรมสารีริกธาตุ เสด็จมาประทับที่ ลุมพินีพาเลส พลเอก ดร. อรัญ ชมไพศาล (อัญเชิญมาให้บูชา) จะมีอะไรประเสริฐกว่านี้ คงคิดถูก ทำถูก ทำสิ่งที่ถูกต่อไป ขันติเป็นตบะอย่างยิ่ง อย่าลืม! อยู่ที่ไหนก็ตายได้ ใต้ดิน นอนตากแดดอยู่ในเรือ ปลากระเบนยังกระโดดขึ้นมาบนเรือ (หางแทง) ผู้หญิงนอนตากแดด ตายทันที บนเครื่องบิน ในรถยนต์ มีคนโดนหิน ขว้างศีรษะตายทันที เพราะฉะนั้น การตายมิมีปัญหา เมื่อไรก็เมื่อนั้น แต่ขณะมีชีวิตอยู่ อย่าทำความเดือดร้อนให้ใคร ทั้งกาย และใจ อยู่เพื่อสร้างกุศลและรับผลของกรรม มีท่านผู้เป็นนายเก่า คุณปราโมทย์ ปวโรฬารวัฒนา บอกว่า "บง...สู้ๆ ๆ !!" ค่ะ ต้องสู้

วันที่ 26 มีนาคม 2551

มะเร็งวิทยา ชั้น 4 ไปพบ หมอ กศานต์ หลังได้รับยา หมอก็ขอให้ฉีด จะได้ช่วยให้ฆ่าเนื้อร้ายได้เร็วขึ้น ก็ตกลง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เชื่อหมอคงดีแน่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรียบร้อย กลับบ้านช่วงเช้า นั่งอยู่ที่รับยาทั่วไป ไม่อยากไปนั่งที่ห้องรับรอง (นายพล) เพราะจะเจอคนรู้จักมาก จริงดังคาด คุณวีระเล่าว่า พอเขาประกาศชื่อ บุษบงรำไพ ก็มีคนเข้ามาหา แล้วถามว่า "คุณบงอยู่ไหน" ปรากฏว่าไม่ได้พบกัน แต่ก็ยังไม่พ้นจากสายตาคนรู้จักอยู่ดี และ พบกันวันนี้ เธอก็ว่า "ขอให้มีกำลังใจ" แสดงว่า ทราบแล้วว่า เราเป็นอะไร? จึงตอบไปว่า "แล้วแต่เหตุปัจจัย" เธอก็ถามเราว่า "ทำไมมานั่งตรงนี้" ก็ตอบไปว่า "นั่งตรงไหนก็ได้มั้ง?" เราก็บอก คนสบายดี กับคนไม่สบาย ก็ไม่ต่างกันนักหรอก เพราะก็ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ เหมือนกัน เพราะคนเจ็บ ถ้าขณะนี้ไม่มีทุกขเวทนา ก็เหมือนคนทั่วไป จิตกุศล อกุศลก็เกิดได้กับทุกคน รู้ว่าขณะนั้นอกุศลเกิดแม้พูดเรื่องธรรมะ ก็น่าแปลกนะ พูดเรื่องดี แต่จิตเป็นอกุศลได้

"ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ จริงๆ ให้ได้เข้าใจ เรื่อง สภาพธรรม"

(...มีต่อ...ตอนอวสาน)



ความคิดเห็น 1    โดย pannipa.v  วันที่ 17 ก.ย. 2551

จงมาดูอัตภาพอันวิจิตร มีกายเป็นแผล อันคุมกันอยู่แล้ว กระสับกระส่าย เป็นที่ดำริของชนเป็นอันมาก ไม่มีความยั่งยืนมั่นคง จงมาดูรูปอันวิจิตรด้วยแก้วมณี และกุณฑล มีกระดูกอันหนังหุ้มห่อไว้ งามพร้อมด้วยผ้า (ของหญิง) เท้าที่ย้อมด้วยสีแดงสด หน้าที่ไล้ทาด้วยจุรณะ พอจะหลอกคนโง่ให้หลงได้ แต่จะหลอกคนผู้แสวงหาฝั่ง คือ พระนิพพาน ไม่ได้ ผมที่แต่งให้เป็นแปดลอนงาม ตาที่เยิ้มด้วยยาหยอด พอจะหลอกคนโง่ให้หลงได้ แต่จะหลอกคนผู้แสวงหาฝั่ง คือ พระนิพพาน ไม่ได้ กายเน่า อันประดับด้วยเครื่องอลังการ ประดุจทนานยาหยอดอันใหม่วิจิตร พอจะหลอกคนโง่ให้หลงได้ แต่จะหลอกคนผู้แสวงหาฝั่ง คือ พระนิพพาน ไม่ได้

(รัฏฐปาลสูตร...มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์)


ความคิดเห็น 2    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 17 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาคะ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 17 ก.ย. 2551

เมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ ความหน่ายในทุกข์ นั่นเป็นทางแห่งความหมดจด

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย suwit02  วันที่ 17 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย ปริศนา  วันที่ 17 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย คุณ  วันที่ 17 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 17 ก.ย. 2551

พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นหนึ่งไม่เป็นสอง คือสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา


ความคิดเห็น 8    โดย aiatien  วันที่ 17 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 9    โดย paderm  วันที่ 17 ก.ย. 2551

ถ้าเข้าใจการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ก็สูงสุด แต่เนื่องจาก สติปัญญา ไม่มีมาก จึงต้องอบรมเรื่องที่สามารถทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณค่า มีประโยชน์ ไม่ใช่อยู่เพื่อสร้างอกุศล ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อย่าอยู่ดี กว่ากระมังคะ? เตือนใจได้ดีมากๆ ครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Anutta  วันที่ 18 ก.ย. 2551

พระสูตรที่คุณ pannipa.v อัญเชิญมา ช่างไพเราะจริงๆ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย wirat.k  วันที่ 18 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย khampan.a  วันที่ 18 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 13    โดย Komsan  วันที่ 19 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 14    โดย pornpaon  วันที่ 19 ก.ย. 2551

ขณะมีชีวิตอยู่ อย่าทำความเดือดร้อนให้ใคร ทั้งกายและใจ อยู่เพื่อสร้างกุศล ขออนุโมทนาคุณบุษบงรำไพ พึ่งบุญ ณ อยุธยา พลวัฒน์

อ่านแล้วคิดขึ้นได้ว่า บางทีถึงแม้ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่ก็มักหลงลืมไปว่า... วันๆ หนึ่ง ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนมากแค่ไหน ด้วยความเป็นคนมักโกรธง่ายบ้าง ช่างอยากได้โน่นอยากได้นี่อยู่เรื่อยๆ บ้าง ช่างหลงติดเพลิดเพลินไปกับอกุศลอยู่ได้ตลอดเวลา บางทีทั้งวันเกือบนึกไม่ออกเลยว่า ชีวิต ควรมีอยู่เพื่อการเจริญกุศล

ขออนุโมทนาคุณ pannipa.v

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย Khaeota  วันที่ 21 ก.ย. 2551

นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด

นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ

ตราบที่สังสารยังมี ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักต้องมี

ขออนุโมทนาพี่บง

ขออนุโมทนาพี่วีระ

ขออนุโมทนา K Pannipa.V

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ