เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
"อวิชชาเป็นอารมณ์ของจิต" พจนาท่านอาจารย์ในพระอภิธรรมพื้นฐาน ๕๔๖ ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้รายละเอียดด้วยครับ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อวิชชา (ความไม่รู้) โมหะ (ความเขลา ความหลง) และความไม่รู้ ทั้ง ๓ คำ กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงที่เป็นอกุศลธรรม เป็นรากเหง้าของสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย เป็นสภาพธรรมที่ทำให้หมู่สัตว์ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีวันจบสิ้น และเป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตทุกชนิด เป็นความไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
อารมณ์หมายถึงสิ่งที่ถูกจิตและเจตสิกรู้ ซึ่งจิตและเจตสิก สามารถรู้ หรือมีอารมณ์ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนามธรรมและรูปธรรม คือ รู้จิต เจตสิก รูป และนิพพานได้ รวมทั้งจิตก็สามารถรู้บัญญัติได้ด้วยครับ
อวิชชาเป็นอารมณ์ของจิต หมายถึง ขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมที่เป็นอวิชชา ความไม่รู้ในขณะนั้น ซึ่ง อวิชชา เป็นอารมณ์ของจิต คือ กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาในขณะนั้น ครับ ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกว่า ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใด ก็ไม่พ้นไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรม แม้แต่ อวิชชา ความไม่รู้ (โมหเจตสิก) ตราบใดก็ตามที่ยังไม่สามารถดับอวิชชาได้ อวิชชาก็ยังมี ยังเกิดขึ้นเป็นไปทุกขณะที่อกุศลจิตเกิดขึ้น และเพราะยังมีอวิชชาอยู่นี้เอง สำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายความไม่รู้ จึงมีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้นในความเป็นจริงของสภาพธรรม เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็สามารถรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ รู้ได้แม้กระทั่งอวิชชา ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ขณะนั้น มีอวิชชาเป็นปัจจัยโดยเป็นอารมณ์ ของจิตในขณะนั้นที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง ซึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ฟังพระธรรม ต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อวิชชา คือ ความไม่รู้ เป็นหัวหน้าของอกุศลธรรมทั้งหลาย ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ