ช่วงแรกผมฟังปกิณกธรรม แล้วตอนนี้ฟังธรรมแผ่นอื่นที่เป็นเรื่องราวและมีการสนทนาธรรมบ้าง ช่วงที่ฟังปกิณกธรรมแรกๆ คิดสงสัยว่า ทำไมท่าน อ.สุจินต์พูดคำว่าเป็นธรรมะ เป็นธาตุบ่อยมาก เหมือนไม่ได้รู้อะไรขึ้น เลยหันไปสนใจฟังธรรมหมวดอื่น แล้วพอกลับ มาฟังปกิณกธรรมใหม่ ปรากฏว่าคำพูดของท่านอาจารย์มีประโยชน์มากครับ ท่านเกื้อกูลให้ผู้ฟังได้กลับมาพิจารณาถึงสภาพธรรมในขณะนี้ มากกว่าการจะศึกษา เรื่องราวประกอบ แล้วหลงไปกับเรื่องราวจนทำให้คิดว่าตนเองเข้าใจเรื่องราวแล้ว อันที่จริงการศึกษาเรื่องราวให้เป็นประโยชน์ ควรจะศึกษาอย่างไร ควรจะพิจารณาขณะที่ฟังเรื่องราวอย่างไรครับ ขอขอบพระคุณในคำตอบครับ
ควรทราบว่าเรื่องราว คำ บัญญัติ ภาษา พยัญชนะ อักษร มีประโยชน์ คือเป็นสื่อนำให้เข้าถึงสภาวธรรม ถ้าไม่มีคำพูด แสดงเรื่องราวของธรรมะ บุคคลทั่วไปไม่สามารถรู้ตัวธรรมะได้ เว้น แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้น ดังนั้นขณะที่เราฟังธรรมะ ขณะนั้นชื่อว่าฟังเรื่องราวของธรรมะเท่านั้น ยังไม่ได้รู้ตัวธรรมะ แต่เรื่องราวของธรรมะเพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าถึงตัวธรรมะจริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การเข้าใจธรรม อาศัยชื่อ แต่ไม่ใช่ไปหาชื่อ แต่ให้เข้าใจว่า ที่มีชื่อมีเรื่องราวเพราะมีสภาพธรรม หากไม่มีสภาพธรรม เช่น จิต เจตสิก รูปแล้วก็จะไม่มีเรื่องราว คนสัตว์ บุคคล แต่เพราะมีสภาพธรรม สิ่งต่างๆ ที่เป็นชื่อเรื่องราวจึงมีได้ ดังนั้น การศึกษาพระธรรม คืออาศัยการฟังเรื่องราวของสภาพธรรม เพื่อรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีอยู่จริง มิใช่ไปหาชื่อของสภาพธรรมว่าคืออะไร ทั้งๆ ที่ลักษณะของสภาพธรรมมีอยู่จริง ไม่ได้มีชื่อมีแต่ลักษณะ
การศึกษาพระธรรมและการอบรมปัญญาที่ถูกต้องจึงเป็นไปเพื่อเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่มีอยู่จริงว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ขณะนั้นไม่ได้รู้ชื่อแต่รู้ลักษณะของธรรมครับ จึงรู้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ขณะที่รู้ชื่อไม่ได้รู้ลักษณะแต่เป็นหนทางที่จะทำให้ไปสู่การเข้าใจลักษณะของธรรม ขออนุโมทนาครับ
ข้อคิด เพราะมีธรรม (สิ่งทีมีจริง) จึงมีเรื่องราว และ สัตว์ บุคคล
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์