ท่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทางไปนมัสการพุทธสถานที่ประเทศศรีลังกากับคณะของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ระหว่างวันที่ 23 - 31 มีนาคม 2553โปรดติดต่อได้ที่ ...อาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม หรือ คุณวรรณี แซ่โง้ว ค่าเดินทาง 32,500 บาท มัดจำงวดแรก 12,500 บาท ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552

ขอเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม หรือของคุณวรรณี แซ่โง้ว ด้วยค่ะ

จาก อนุโมทนา

เบอร์ติดต่อคุณวรรณี แซ่โง้ว คือ 02 4680239

กำหนดการเดินทางไปนมัสการพระเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา

โคลัมโบ แคนดี้ อนุราธปุระ และ นูวาราเอลิยะ

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พศ.2553 กรุงเทพ – โคลัมโบ 17.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาท์เตอร์ของสายการบินSRI LANKAN AIRLINES

20.55 น. เครื่องบินของสายการบิน SRI LANKAN AIRLINES เที่ยวบินที่ UL 423 ออกเดินทางไป เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1 ชม.ครึ่ง) 22.50 น. เครื่องบินถึงท่าอากาศยาน นานาชาติโคลัมโบ บันดาราไนยเก (Bandaranaike International Airport)

หลังจากผ่านพิธีการตรวจวีซ่า และศุลกากร เดินทางเข้าโรงแรม

TAJ AIRPORT GARDEN (โรงแรมทัจ แอร์พอร์ท การ์เด้นท์ เรท 4ดาว)

* * * * กรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่จะใช้ในคืนนี้ และวันพรุ่งนี้ในกระเป๋าใบเล็ก เพราะกระเป๋าใบใหญ่จะไม่นำลงมาจากรถ * * * * * * * * *

วันพุธที่ 24 มีนาคม พศ.2553 โคลัมโบ –โปลอนนารูวา- ฮาบาราน่า

07.00 น. หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางไปยังเมืองดัมบุลลา Dambulla

09.30 น. แวะระหว่างทาง พักดื่มชา รับประทานของว่าง และเข้าห้องน้ำ ที่เมืองคุรุนณีกาล่า (Saruketha Restaurant Kurunnegala)

12.30 น. ถึงโรงแรม Hotel Chaaya Village อาหารเที่ยงที่โรงแรม

15.00 น. เดินทางไปยังเมือง เมืองโปลอนนารูวา Polonnaruwa ซึ่งเป็นราชธานีของศรีลังกาแห่งที่สองในระหว่างปี พศ. 1600-1800 และเคยเป็นที่ประทับของพระนางเจ้าเอลิซาเบ็ธที่ 2 หลังจากทรงรับตำแหน่งพระราชินีของประเทศอังกฤษ ในปี พศ.2497 เยี่ยมชมโบราณสถาน ปราสาท 7 ชั้น , สถานที่สรงน้ำ, รัฐสภาเก่าที่รายล้อมไปด้วยช้างและสัตว์ต่างๆ ที่ฐานอาคาร เป็นต้น

19.00 น. เดินทางกลับที่พัก โรงแรม Hotel Chaaya Village เมือง ฮาบารานา (โรงแรมเรท 4ดาว) เพื่อรับประทานอาหารค่ำ และสนทนาธรรม

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พศ.2553 ฮาบาราน่า–มหินตาเล -อนุราธปุระ -ฮาบาราน่า

07.00 น หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางจากเมือง ฮาบารานา (Habarane) ไปยังเมืองมหินตาเล (Mihintale) สถานที่พระมหินทร์ พระโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราชเสด็จมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ พระเจ้าเทวนัมปิยะติสสะ ที่พึ่งเสวยราชสมบัติ เป็นครั้งแรกที่เขา มหินตาเล ในปีพศ. 236 บนเขามีพระมหาเสยะเจดีย์ (Mahaseya Pagoda) เจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ทรงลังกา สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระนลาฎ (หน้าผาก) หลังจากนั้นเดินทางไปยังเมือง อนุราธปุระ (Anuradhapura)

12.00 น. อาหารกลางวันที่เมือง อนุราธปุระ (Miridiya Hotel)

14.00 น. หลังอาหารกลางวัน เดินทางไปชม วิหารอิสุรุมุณิยะ (Isurumuniya Vihara) วิหารที่เจาะอยู่ในภูเขา สถานที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาท และประติมากรรมอันเก่าแก่ หลังจากนั้นเดินทางไปนมัสการเจดีย์ถูปารามThuparama Stupa เป็นเจดีย์องค์แรกของประเทศศรีลังกา โดยประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา (กระดูดไหปลาร้า) ในครั้งที่ พระมหินทร์ พระโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช เสด็จมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเกาะลังกา หลังจากนั้นเดินทางไปนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียในปี พศ.235 โดยพระนางสังฆมิตตาเถรี พระราชธิดาพระเจ้าอโศกมหาราช ชมสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสย
Ruwanweliseya Stupa สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานพระเจ้าทุฏฐคามณี (King Duttugamunu) ชนช้างชนะกษัตริย์ทมิฬ พระยาเอฬาร (King Elara) โดยมีกำแพงช้างล้อม อยู่รอบพระเจดีย์ (ประเทศไทย พม่า และประเทศทางแถบเอเชียได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบนี้ ที่เรียกว่าวัดช้างล้อม) หลังจากบูชาถวายดอกบัว และสนทนาธรรมแล้ว เดินทางกลับโรงแรม

20.30 น. อาหารค่ำ ที่โรงแรม Hotel Chaaya Village เมือง ฮาบารานา

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พศ.2553 ฮาบารานี - มาตาเล – แคนดี้

07.00 น. หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางไปยังถ้ำดัมบูลลา สถานที่จำพรรษาของพระสงฆ์ในอดีต ภายในถ้ำมีทางเข้าถึง 25 เส้นทาง ชมพระวิหารที่พระเจ้านิสาสังคะมาลา (NISASANKA MALLA) เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในวิหารแบ่งออกเป็น 5 วัด ภายในแต่ละวัดก็จะมีพระพุทธรูปแตกต่างกันไป เช่น วัดแรกจะประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน เป็นต้น

10.00 น. เดินทางไปยังวัดอโรกา (Aloka Vihara) ซึ่งเป็นสถานที่สังคายนาครั้งที่ 4ของฝ่ายเถรวาท และพระไตรปิฎกได้ถูกจารึกเป็นภาษาบาลีบนใบลานเป็นครั้งแรก ณ ที่แห่งนี้

11.30 น. หลังจากชมวัดอโรกา เดินทางต่อไปยังเมืองแคนดี้ ระหว่างทางพักดื่มชา รับประทานของว่าง และเข้าห้องน้ำ ที่ สไปซ์ การ์เด้น เมือง มันทเลย์ Spice Garden, Matalay

13.30 น. อาหารเที่ยงที่โรงแรม มหาวารี ริช เมืองแคนดี้ Mahaweli Reach Hotel, kandy หลังจากนั้น พักผ่อนตามอัธยาศัย

15.00 น. เดินทางออกจากโรงแรมเพื่อเข้าชมสถานที่สำคัญภายในเมืองแคนดี้ หลังจากนั้นนมัสการพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว ณ วัดศรีดาลามัลกาวะ (The temple of Tooth)

19.00 น. อาหารค่ำและชมการแสดงพื้นเมือง ที่โรงแรม มหาวารี ริช เมืองแคนดี้ Mahaweli Reach Hotel, kandy (โรงแรมเรท 5ดาว)

วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พศ.2553 แคนดี้– นูวารา เอลิย่า

07.00 น. หลังอาหารเช้าออกเดินทางไปยังสวนพฤกษศาสตร์ เพลาดินียา (Peradeniya Botanical Garden) โดยพระเจ้าวิกรมพาหุที่ 3 สร้างเป็นอุทยานหลวง พ.ศ.1914 ซึ่งมีพรรณไม้มากกว่า 4,000 ชนิด บนเนื้อที่ 375ไร่

12.00 น. อาหารกลางวันที่ Royal Mall Reataurent

13.30 น. หลังอาหารกลางวัน เดินทางต่อไปยังเมือง นูวารา เอลิย่า เป็นเมืองแห่งสวิสของศรีลังกา เป็นที่ตากอากาศของชาวอังกฤษ สมัยล่าอาณานิคม ระดับความสูงของเมืองประมาณ 2000ฟุต จากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิจะอยู่ที่ 16-25 เซลเซียส เป็นเมืองเกษตรทีมีผลผลิตชาที่ขึ้นชื่อ โดยชาวสิงหลเรียก ชา ว่า “เต้” เหมือนคนจีน ส่วนคนอินเดียจะเรียกว่า “จัย”

15.00 น. ระหว่างทางพักดื่มชา รับประทานของว่าง และเข้าห้องน้ำ ที่ลาโบเคียล ที เอสเตส (Labookelle Tea Estate)

18.30 น. เดินทางเข้าที่พัก โรงแรม แกรนด์ (Grand Hotel, Nuwara Eliya โรงแรมแบบโคโลเนียล)

อาหารเย็นที่โรงแรม และสนทนาธรรม

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พศ.2553 นูวารา เอลิย่า

07.00 น. อาหารเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.ถึง 09.00 น. หลังจากนั้นสนทนาธรรม

12.00 น. หลังอาหารกลางวันที่โรงแรม ชมการสาธิตการผลิตชา ที่โรงงานชา Tea Factory

18.30 น. อาหารเย็นที่โรงแรม แกรนด์ (Grand Hotel, Nuwara Eliya)

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พศ.2553 นูวารา เอลิย่า – โคลัมโบ08.00 น. หลังอาหารเช้าออกเดินทางไปยังกรุงโคลัมโบระหว่างทางแวะชมสภาพความเป็นอยู่ของเมืองนูวารา เอลิย่า

10.30 น. แวะรับน้ำชาระหว่างทาง ใกล้กับ น้ำตกเซนต์แคลร์ (St.Clair Water Fall)

13.00 น. ระหว่างทาง รับประทานอาหารกลางวันที่ ราฟเตอร์ รีทรีต (Rafters Retreat, Kithulgala) ซึ่งติดกับแม่น้ำที่ใช้ทำการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง สะพานข้ามแม่น้ำแคว17.00 น. เดินทางถึงเมืองโคลัมโบ เข้าที่พัก แกรนด์ ซินนามอน Grand Cinnamon Hotel, Colombo (โรงแรมเรท 5ดาว)

19.00 น. อาหารค่ำที่โรงแรม หลังจากนั้นสนทนาธรรม

วันอังคารที่ 30 มีนาคม พศ.2553 โคลัมโบ

08.00 น. หลังอาหารเช้าออกเดินทางไปชมสถานที่สำคัญ วัดเกลานียา (Kelaniya Temple) คนไทยจะเรียกว่า วัดกัลยาณีมหาวิหารตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เก-ลานี ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม บรรยายเกี่ยวกับหน่อพระศรีมหาโพธิ์, พระบรมสารีริกธาตุขณะเดินทางเข้าสู่ประเทศศรีลังกา และพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่งดงาม

12.00 น. อาหารกลางวันเป็นอาหารไทย ที่สยามเฮาส์ (Siam House Restaurant)

13.30 น. เดินทางชมวัดวัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองสด ด้านข้างมีงาช้างขนาดใหญ่ 1 คู่ ส่วนด้านหลังของวัด มีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางสมาธิ และปางปฐมเทศนา ซึ่งคนไทยได้นำมาถวายเป็นพุทธบูชา หลังจากนั้นเดินข้ามถนนเพื่อเข้าชมวัดสีมามาลากา (Srima Malaka Temple) ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เบ รา (Beira Lake) โดยสร้างตัวอาคารไม้ หลังคาสีน้ำเงินจำนวน 3 หลัง สร้างอยู่กลางน้ำ และมีสะพานไม้ทอดยาวไปยังอาคารหลังใหญ่กลางะเลสาบ ซึ่งมีระเบียงโดยรอบระดิษฐานไปด้วยพระพุทธรูปที่คนไทยได้สร้างถวาย16.00 น. เดินทางกลับโรงแรม เพื่อสนทนาธรรม

19.00 น. อาหารเย็นที่โรงแรม ซินนามอน แกรนด์ Cinnamon Grand Hotel, Colombo หลังจากนั้นตามอัธยาศัย

22.00 น. เดินทางไปยังท่าอากาศยาน นานาชาติโคลัมโบ บันดาราไนยเก Bandaranaike International Airport เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

วันพุธที่ 31 มีนาคม พศ. 2553 โคลัมโบ – กรุงเทพ

01.45 น. เครื่องบินของสายการบิน SRI LANKAN AIRLINES เที่ยวบินที่ UL 888 ออกเดินทางสู่ประเทศไทย

06.40 น. เครื่องบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

ขอบคุณค่ะสำหรับเบอร์โทรศัพท์ของคุณวรรณี

ได้ปรึกษาสหายธรรมที่มีความประสงค์จะไปไหว้สังเวชนียสถาน ได้รับการบอกกว่าว่ารอให้ อ.สุจินต์จัดไปประเทศอินเดีย จะตัดสินใจร่วมเดินทางไปด้วย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ