พักผ่อนจิตใจ
โดย Noparat  24 ธ.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 10748

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

สิ่งที่จะช่วยให้การพักผ่อนได้รับผลสมบูรณ์เต็มที่ในชีวิตประจำวันนั้น โดยทั่วไปแล้วอาจจะหมายรวมถึงสิ่งแวดล้อม อากาศ อาหาร และบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงด้วย การที่อยู่ใกล้เคียงกับบุคคลทีมีกิเลส เต็มไปด้วยอกุศลประการต่างๆ ไม่ช่วยให้จิตใจได้พักผ่อนเลย การพักผ่อนที่แท้จริง คือ การพักผ่อนจิตใจ จิตใจที่ไม่สะอาด ถูกพอกพูนไว้ด้วยกิเลสคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ย่อมเป็นจิตใจที่ไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ศึกษาพระธรรม และเห็นโทษของกิเลสทั้งหลาย จึงเพียรพยายามเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ ดังนั้น การที่ได้อบรมเจริญปัญญาและขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน จึงเป็นไปเพื่อการพักผ่อนของจิตใจอย่างแท้จริง ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะเข้ามา ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ผู้ศึกษาธรรมหลายท่านคงจะมีการพักผ่อนตามอัธยาศัยในที่ต่างๆ บ้างเป็นธรรมดา จึงขอฝากธรรมเรื่องการพักผ่อนจิตใจซึ่งเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริงไว้พิจารณาด้วยค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 24 ธ.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พุทธบริษัททุกกาลสมัย ผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา พร้อมทั้งเห็นประโยชน์ ย่อมเป็นผู้น้อมที่จะประพฤติปฏิบัติด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น ไม่ใช่เพื่อโลภะ ความติดข้องยินดีพอใจ ไม่ใช่เพื่อลาภยศ สักการะสรรเสริญ แต่เป็นไปเพื่อการละ เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสซึ่งมีมากเหลือเกิน อันเป็นเครื่องทำให้จิตใจสกปรก ไม่สะอาดอยู่ตลอดเวลา เป็นศัตรูภายในที่เผาไหม้จิตใจทำให้เดือดร้อนทั้งในโลกนี้และโลกหน้าด้วย โดยปกติของผู้ที่ยังมีกิเลส อกุศลจิตย่อมเกิดเป็นปกติและบ่อยมากในชีวิตประจำวันแต่เมื่อไม่รู้ ไม่เข้าใจ ย่อมเดือดร้อน ย่อมยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นตัวตน ขณะที่อกุศลจิตเกิดนั้นเป็นจิตใจที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างแน่นอน เพราะถูกกลุ้มรุมด้วยอกุศลธรรมประการต่างๆ การได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นการพักผ่อน แต่จิตในขณะนั้นเป็นอะไร แต่ก็ไม่มีการห้าม ไม่มีการบังคับ เป็นไปตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคลจริงๆ

ที่สำคัญคือไม่ละทิ้งการฟัง การศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา สำหรับขณะที่กุศลจิตเกิดแต่ละครั้ง แม้จะไม่บ่อยนักในวันหนึ่งๆ ก็ชื่อว่าพักผ่อนได้บ้างเหมือนกัน เพราะเป็นการพักจากอกุศล เพราะเหตุว่าในขณะที่กุศลจิตเกิด อกุศลเจตสิกจะเกิดร่วมด้วยไม่ได้ แต่ยังไม่ชื่อว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง การได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง สั่งสมไปทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าปัญญาจะคมกล้าสามารถดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้โดยเด็ดขาด ไม่เกิดอีกเลยนั้น จึงจะเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะไม่มีการเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ เมื่อยังไม่ถึงวันนั้น ก็ต้องค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ด้วยการฟังพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ เป็นปกติในชีวิตประจำวัน สั่งสมเป็นเสบียงในการเดินทางต่อไปอีกในสังสารวัฏฏ์ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 24 ธ.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย choonj  วันที่ 24 ธ.ค. 2551

จิตเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ดวงหนึ่งเกิดตั้งอยู่แล้วก็ดับไป ดวงต่อไปก็เกิดอีกสืบต่อไม่มีจบสิ้น ไม่เคยมีคำว่าพักผ่อน กุศลจิตอยู่ง่าย อกุศลจิตอยู่ยาก เมื่อกุศลเกิดในขณะนั้น สงบ เบาสบาย เบิกบาน มีสุขเวทนา เป็นปัจจัยให้กุศลวิบากเกิดในอนาคต เมื่ออยู่ง่ายก็พักผ่อน ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย opanayigo  วันที่ 25 ธ.ค. 2551

การพักผ่อนมีน้อยมากค่ะ ถูกอกุศลกลุ้มรุมทั้งวัน ขออนุโมทนา ธรรมอันให้ระลึกพิจารณาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 25 ธ.ค. 2551

ขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นเป็นการพักผ่อนจาก การยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ชั่วขณะสั้นๆ เป็นขณะที่ประเสริฐที่สุดค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย พุทธรักษา  วันที่ 25 ธ.ค. 2551

จากความเห็นที่ ๕

ขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นเป็นการพักผ่อนจากการยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ชั่วขณะสั้นๆ เป็นขณะที่ประเสริฐที่สุดค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย orawan.c  วันที่ 26 ธ.ค. 2551

จิตที่เป็นกุศล เบา สบาย ไม่หนัก จิตที่เป็นอกุศล หนัก ไม่สบาย จึงควรเจริญกุศลทุกประการ และละอกุศลทุกประการ ตามกำลังของปัญญา

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย paderm  วันที่ 28 ธ.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ เห็นโทษของอกุศลแม้เล็กน้อย ไม่ละทิ้งการฟังพระธรรมในหนทางที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดีและประเสริฐแต่เป็นธรรมและเป็นอนัตตาเมื่ออาศัยการฟังพระธรรมและปัญญาเริ่มเจริญขึ้น กุศลจิตก็จะเพิ่มมากขึ้นตามกำลังปัญญา กาย วาจา ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น จิตตชรูปก็เกิดขึ้นด้วย รูปที่เกิดจากจิตที่เป็นกุศลย่อมเป็นรูปที่ดี ผ่องใส ดังตัวอย่างเรื่องที่พระมหากัสสปะป่วยเมื่อได้ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงท่านก็เกิดปิติเกิดจิตฝ่ายดีเกิดขึ้น โลหิตของท่านก็ผ่องใสท่านจึงหายจากโรคครับ แต่พระธรรมแสดงว่าหากจิตเป็นอกุศลหรือศึกษาธรรมผิดทางการหลับเสียยังดีกว่าครับ ขอให้สหายธรรมทุกๆ ท่านไม่ประมาทในการพักผ่อนทุกๆ ประการครับ

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 5 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 10    โดย คุณ  วันที่ 21 มี.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 11    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 30 ก.ค. 2563

วันนี้เปิดดูกระทู้นี้ จิตกำลังถูกกลุ้มรุมจากอกุศลที่ต้องการจะไปพักผ่อนที่ชายทะเลมาหลายวันแล้ว ดิ้นรนหาสถานที่และราคาที่พอเหมาะอยู่เป็นวัน แต่หาเพื่อนร่วมเดินทางไปพักผ่อนไม่ได้ ทำให้มีสภาพที่กลุ้มรุมด้วยอกุศลคือ โลภะที่อยากไปพักผ่อน ตรงกับความเห็นของอ.คำปั่นที่แสดงธรรมในความเห็นที่หนึ่งพอดี

ขอขอบพระคุณที่แสดงธรรมเป็นเครื่องเตือนใจให้ลดความเร้าร้อนในโลภะที่ไม่สมหวังในขณะนี้ได้บ้างค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 10 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ