ในยุคนี้จะเชื่อใครดี ใครจะเป็นที่พึ่งได้ ชื่อเสียงกิตติคุณเป็นหลักประกันได้หรือไม่
นักปฏิบัติส่วนใหญ่ย่อมเชื่อครูผู้สอน โดยเฉพาะพระภิกษุที่มีชื่อเสียง เมื่อปฏิบัติตามแล้ว ได้คุณวิเศษบรรลุฌานขั้นต่างๆ เชื่อเพราะได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง อะไรจะเป็นหลักประกันว่าเชื่อถือได้และสิ่งที่ได้บรรลุถูกต้องแล้ว พระพุทธเจ้ามีหลักในการเชื่อถืออย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนก็ตาม ผู้ที่ควรเชื่อถือและเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีความรู้และมีคุณธรรมที่เรียกว่า กัลยาณมิตร ในสมัยครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก
พระอนาคามี พระสกทาคามี พระโสดาบัน เป็นที่พึ่งของคนในยุคนั้น เพราะพระพุทธ-เจ้าเป็นต้นนั้นเป็นกัลยาณมิตร สมัยต่อมาก็เช่นกัน กัลยาณมิตรคือผู้มีความรู้มีคุณ-ธรรม เป็นที่พึ่งได้ แต่เราต้องทราบว่า ผู้มีความรู้ถูกต้องและมีคุณธรรมเป็นอย่างไร ถ้าหากเราไม่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระศาสดาเราไม่อาจทราบได้ ฉะนั้น ต้องศึกษาพระธรรมคำสอน โดยตรงคือพระไตรปิฎก และอรรถกถาที่ท่านขยายความพระไตรปิฎก เราจึงจะทราบได้ว่าพระธรรมที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ข้อปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นอย่างไร การบรรลุที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ฌานคืออะไร ฌานบรรลุอย่างไร ฌานจิตรู้อะไรอะไรเป็นโทษของฌาน ฌานจะเจริญให้สูงยิ่งขึ้นได้อย่างไร เป็นต้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 74
เชิญคลิกอ่านที่ ปฐมกัลยาณมิตตสูตร มิตรดีเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 142
กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘
ว่าด้วยความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นต้น [๗๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเมื่อบุคคลมีมิตรดี กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 380
เชิญคลิกอ่านที่
ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี พึงหวังคุณข้อนี้ได้
อนุโมทนา